เวลานี้ แนวทางการฉีดวัคซีนโควิดกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อบรรดาบริษัทผู้ผลิตยากำลังทดสอบวิธีใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้กับเชื้อโคโรนาไวรัสกลายพันธุ์ เช่น การผสมวัคซีนข้ามสูตร หรือการใช้วัคซีนแบบฉีดจมูก แทนการฉีดวัคซีนแบบเดิม
ปัจจุบัน ยังคงมีความสับสนว่าประชาชนกลุ่มใดที่ควรเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สองในตอนนี้เลย หรือใครที่ควรรอไปก่อน นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มต่อไปในช่วงปลายปีนี้หรือไม่ อย่างไร
แพทย์หญิง เบ็ธ เบลล์ แห่งมหาวิทยาลัยรัฐวอชิงตัน (University of Washington) ที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี กล่าวว่า ตนมีความกังวลว่าขณะนี้ประชาชนอเมริกันกำลังเกิดความเบื่อหน่ายในการฉีดวัคซีนโควิด และอาจเกิดความไม่มั่นใจต่อวัคซีนซึ่งยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือการระบาดของโควิด-19
แม้ที่ผ่านมา วัคซีนโควิดได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิผลสูงในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตจากโควิด แต่ก็มีแรงกดดันเพิ่มขึ้นให้บริษัทยาต่าง ๆ พัฒนาวัคซีนที่สามารถป้องกันอาการป่วยเล็กน้อยได้ รวมถึงวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ ๆ เช่นกัน
การคิดค้นวัคซีนสูตรใหม่
บริษัทยาต่าง ๆ กำลังหาวิธีพัฒนาวัคซีนโควิดใหม่ ๆ โดยอ้างอิงจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน กล่าวคือ ไม่ต้องปรับปรุงสูตรวัคซีนตามสายพันธุ์ไวรัสที่พบในขณะนั้น เพราะไวรัสอาจกลายพันธุ์ไปตลอดเวลา แต่อาจใช้วิธีผลิตวัคซีนแบบเดียวที่สามารถใช้กับไวรัสได้ 3-4 สายพันธุ์ และฉีดเพียงปีละครั้ง เป็นต้น
เวลานี้ บริษัทยา โมเดอร์นา (Moderna) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) กำลังทดสอบวัคซีนโควิดแบบ 2-in-1คือการผสมวัคซีนโควิดแบบเดิมที่ใช้ได้ผลมาแล้ว กับวัคซีนโควิดสำหรับสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทางโมเดอร์นาส่งสัญญาณว่าวัคซีนแบบใหม่นี้น่าจะสามารถนำมาใช้ได้จริงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ กล่าวว่า หากต้องการให้วัคซีนโควิดแบบผสมสูตรดังกล่าวออกมาใช้ทันฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ซึ่งเป็นช่วงที่โคโรนาไวรัสมักกลับมาระบาดอีกครั้งในสหรัฐฯ ทางเอฟดีเอจำเป็นต้องตรวจสอบและรับรองสูตรวัคซีนใหม่ดังกล่าวภายในฤดูร้อนปีนี้ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
วัคซีนเข็มบูสเตอร์ยังจำเป็นหรือไม่
นายแพทย์เดวิด คิมเบอร์ลิน ที่ปรึกษาของซีดีซี จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอละบามา วิทยาเขตเบอร์มิงแฮม (University of Alabama at Birmingham) กล่าวว่า สำหรับบุคคลทั่วไปผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มและบูสเตอร์หนึ่งเข็ม ของบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ (รวมสามเข็ม) ก็เพียงพอสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันพื้นฐานและพร้อมกับการฉีดวัคซีนโควิดเพียงปีละเข็มต่อไปจากนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนปกติ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ทำงานซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส การได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพิ่มอีกอย่างน้อยหนึ่งเข็มก็อาจช่วยให้สามารถป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้ คนอเมริกันอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สองได้แล้ว เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ เช่น อิสราเอล ที่เสนอให้ผู้สูงอายุเข้ารับวัคซีนโควิดเข็มที่สี่นี่แล้วเช่นกัน
ยาฉีดจมูก: แนวทางใหม่ของวัคซีนโควิด?
สำหรับหลาย ๆ คน เข็มฉีดยาและการฉีดวัคซีนโควิดที่ต้นแขนนั้นอาจทำให้พวกเขาเลี่ยงการเข้ารับวัคซีนโควิดเข็มต่อ ๆ มา ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า การพัฒนาวัคซีนแบบฉีดเข้าจมูกอาจสามารถเข้ามาเสริมในส่วนนี้ได้
เวลานี้ บริษัทยาหลายบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนแบบฉีดจมูก หนึ่งในนั้นคือบริษัทภารัตไบโอเทคในอินเดีย ซึ่งกำลังทดสอบในขั้นตอนท้าย ๆ แต่ยังคงไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีวัคซีนแบบฉีดจมูกนี้ออกมาให้ใช้กันได้หรือไม่? และเร็วแค่ไหน?
แพทย์หญิง เกรซ ลี แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หนึ่งในคณะกรรมาธิการของซีดีซี กล่าวว่า การหาแนวทางใหม่เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มบูสเตอร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการระบาดของไวรัสระลอกใหม่
- ที่มา: เอพี