ชายในนิวยอร์กโดนข้อหาอาชญากรรมความเกลียดชัง หลังทำร้ายหญิงเอเชีย 7 คนใน 2 ชั่วโมง

Congress Asian Hate Crimes

ชายไร้บ้านวัย 28 ปีถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมความเกลียดชัง หลังจากออกทำร้ายหญิงเชื้อสายเอเชีย 7 คนภายในช่วงเวลาเพียง 2 ชั่วโมงในมหานครนิวยอร์ก ขณะที่ผลการสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้หญิงชาวเอเชียนอเมริกันและชาวหมู่เกาะแปซิฟิกต้องเผชิญกับการเหยียดผิว การถูกรังควานและทำร้ายทางร่างกายมากกว่าผู้ชาย

สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า สตีเฟน ซาจอนซ์ (Steven Zajonc) ถูกจับกุมในวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ออกทำร้ายผู้หญิงเชื้อสายเอเชีย 7 คนในละแวกต่าง ๆ บนเกาะแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก ในวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ตำรวจนิวยอร์กให้ข้อมูลว่าผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อมีอายุระหว่าง 19 ถึง 57 ปี โดยส่วนใหญ่ถูกนายซาจอนซ์ ชกเข้าที่หน้า และมีคนหนึ่งถูกผลักลงพื้น โดยผู้หญิงสองคนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

ซาจอนซ์ถูกตำรวจตั้งข้อหา 7 กระทงต่อการทำร้ายเหยื่อแต่ละคน รวมถึงข้อหาการทำร้ายร่างกายที่เกิดจากความเกลียดชัง ข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย ติดตามรังควาน และคุกคามผู้อื่น

ตำรวจสามารถเข้าจับกุมนายซาจอนซ์ได้จากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งห้องสมุดประชาชนแห่งหนึ่ง ในใจกลางแมนฮัตตัน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนได้ดูวีดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายมาจากบริเวณที่มีการทำร้ายร่างกาย และจดจำใบหน้าของซาจอนซ์ได้ เนื่องจากซาจอนซ์นั้นจะมาห้องสมุดประชาชนเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น และมักจะขังตัวเองไว้ในห้องน้ำเป็นเวลานาน ๆ เพื่อชำระล้างร่างกาย

เมื่อซาจอนซ์มาใช้ห้องสมุดอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนจึงได้แจ้งตำรวจ ก่อนที่เขาจะถูกจับในที่สุด

Unjuk rasa "We Are Not Silent" melawan kebencian anti-Asia sebagai tanggapan atas kejahatan anti-Asia baru-baru ini di Chinatown-Distrik Internasional Seattle, Washington pada 13 Maret 2021. (Foto: AFP/Jason Redmond)

การทำร้ายร่างกายหญิงเชื้อสายเอเชียทั้ง 7 คนครั้งนี้ เป็นการใช้ความรุนแรงต่อผู้คนเชื้อสายเอเชียในมหานครนิวยอร์กที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากที่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คริสตินา ยูนา ลี (Christina Yuna Lee) หญิงสาวเชื้อสายเอเชีย ถูกแทงจนเสียชีวิตคาอพาร์ทเมนต์ของเธอ และในเดือนมกราคม มิเชลล์ อลิซซ่า โกะ (Michelle Alyssa Go) ถูกผลักตกรางรถไฟใต้ดินขณะมีรถไฟวิ่งเข้ามาที่บริเวณไทม์สแควร์ จนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีนักการทูตชาวเกาหลี นักแสดงเชื้อสายเอเชีย ที่ถูกทำร้ายอีกด้วย

สื่อ The New York Times รายงานว่า ในมหานครนิวยอร์ก มีเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติต่อผู้มีเชื้อสายเอเชียทั้งหมด 131 เหตุการณ์ในปี ค.ศ.2021 เพิ่มขึ้นมาจาก 28 เหตุการณ์ในปี ค.ศ.2020 และจาก 3 เหตุการณ์ในปี ค.ศ.2019 จากการให้ข้อมูลของตำรวจ อย่างไรก็ตาม นักรณรงค์เคลื่อนไหวมองว่า การทำร่้ายร่างกายหลายเหตุการณ์ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดอาชญากรรมจากความเกลียดชัง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่มีเชื้อสายเอเชีย

และเมื่อดูตัวเลขทั่วประเทศในสหรัฐฯ Stop AAPI Hate รายงานว่ามีการทำร้ายร่างกายที่มุ่งไปที่ผู้คนเชื้อสายเอเชียและชาวเกาะแปซิกฟิกกว่า 10,300 เหตุการณ์ในช่วงเดือนมีนาคม ค.ศ.2020 ถึงเดือนกันยายน ค.ศ.2021

นอกจากนี้ รายงานล่าสุดที่จัดทำโดย National Asian Pacific American Women’s Forum ยังเปิดเผยว่า ผู้หญิงที่มีเชื้อสายเอเชียหรือชาวหมู่เกาะแปซิฟิกที่ได้เผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติกับตัวเองในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็น 74% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 2,400 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด และมีผู้หญิง 38% ที่ประสบกับการคุกคามทางเพศ

ผู้บริหารของ National Asian Pacific American Women’s Forum ให้สัมภาษณ์กับสื่อ NBC News ว่า ผู้หญิงตกเป็นเป้าของการถูกทำร้ายเพราะมีภาพลักษณ์ว่าผู้หญิงไม่ต่อสู้กลับและเป็นคนยอมคน

ในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่าพวกเธอประสบกับเหตุการณ์ที่เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติและถูกคุกคามนั้น 72% เป็นผู้หญิงเชื้อสายเอเชียตะวันออก 73% เชื้อสายเอเชียใต้ และ 75% เชื้อสายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ สาเหตุของการทำร้ายผู้หญิงเชื้อสายเอเชียและผู้ที่มีเชื้อสายชาวหมู่เกาะแปซิฟิกนั้น ยังเกิดจากการผสมผสานของทั้งการเป็นเชื้อสายเอเชีย และการเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวกล่าวว่าผู้ชายอาจจะถูกทำร้ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่มีการรายงานน้อยกว่า เพราะผู้ชายบางคนอาจมองว่าเพศชายต้องเข้มแข็ง และไม่เปิดเผยเมื่อถูกคุกคามทำร้าย