เมื่อวันศุกร์ผู้นำประเทศจีนและรัสเซียให้คำมั่นว่าจะเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อถ่วงดุลสหรัฐฯ ที่ทั้งสองมองว่าเป็นอิทธิพลที่ไม่ประสงค์ดี โดยการพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพ
ในเเถลงการณ์ร่วมระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ทั้งคู่ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศครั้งใหม่ที่เหนือกว่าความเป็นพันธมิตรใดๆช่วงสงครามเย็นทั้งในเรื่องการทหารหรือการเมือง ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ผู้นำทั้งสองกล่าวในเเถลงการณ์ภาษาอังกฤษความยาวเกือบ 5,400 คำ ว่า “มิตรภาพของทั้งสองประเทศไม่มีขีดจำกัด ไม่มีส่วนใดที่เป็นเรื่อง ‘ต้องห้าม’ ในความร่วมมือกัน” ซึ่งรวมถึงการค้า โครงการอวกาศ ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ ปัญญาประดิษฐ์ และการกำกับดูเเลระบบอินเตอร์เน็ต
รอยเตอร์รายงานว่าความตกลงดังกล่าวถือว่ามีรายละเอียดที่สุดและชัดเจนในความมุ่งมั่นที่สุดระหว่างรัสเซียและจีน ที่จะร่วมกันสร้างระเบียบโลก ภายใต้การตีความของทั้งสองประเทศในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า คำประกาศนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าทั้งสองกำลังเเสดงเจตนารมณ์โดยรวมของประเทศ หรือนำประเทศไปสู่ความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม
ในเวลาเดียวกันนี้บริษัทพลังงานรัสเซียสองเเห่งที่เป็นของรัฐคือ ก๊าซพรอม (Gazprom) และ รอสเนฟท์ (Rosneft) จะส่งนำ้มันและก๊าซธรรมชาติให้แก่จีนในความตกลงล่าสุดมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์
แดเนียล รัสเซล แห่งสถาบันวิเคราะห์นโยบาย Asia Society ซึ่งเป็นอดีตนักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯด้านเอเชียตะวันออกสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่าประธานาธิบดีจีนและรัสเซียกำลังส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะต้านทานบทบาทของสหรัฐฯและประเทศโลกตะวันตกอื่นๆ ทั้งในเรื่องการเป็นผู้นำโลกและมาตรการลงโทษต่างๆ
ด้านโจนาธาน อียัลแห่งสถาบัน Royal United Services Institute กล่าวว่าเเถลงการณ์ของสีและปูตินเป็นการ “ตอบโต้ซึ่งๆหน้า” ต่อสหรัฐฯและโลกตะวันตก และอาจนำไปสู่การสร้างแนวร่วมทางกลาโหมด้วยกัน
เขากล่าวว่า เป็นการเเสดงออกที่ชัดเจนที่สุดถึง “ยุทธศาสตร์การทำให้โลกมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับอำนาจเผด็จการ”
นักวิเคราะห์ผู้นี้กล่าวด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น “เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญเพราะทั้งสองประเทศรู้สึกว่าถูกต้อนให้จนมุมและถึงเวลาเเล้วที่จะแสดงวิสัยทัศน์โลกและเผยเเพร่มันด้วยความเเข็งขัน”
ทั้งนี้รัสเซียและจีนกำลังกระชับความสัมพันธ์กัน ขณะที่ทั้งคู่ถูกกดดันจากโลกตะวันตกในหลายเรื่องเช่น สิทธิมนุษยชน และกลาโหมโดยเฉพาะรัสเซียที่กำลังมีประเด็นร้อนกับสหรัฐฯและนาโต้เรื่องยูเครน
ส่วนจีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวแต่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรทางการทูตต่อมหกรรมกีฬาในครั้งนี้
ข้อความบางส่วนของแถลงการร่วมระหว่างจีนและรัสเซียกล่าวถึงการที่รัสเซียสนับสนุนจุดยืนของจีนเรื่องไต้หวันว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีนเป็นดินใหญ่ และมีส่วนที่จีนและรัสเซียร่วมเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาเเอตเเลนติกเหนือหรือนาโต้ยุติการขยายอำนาจ
แม้ว่าทั้งจีนเเละรัสเซียมิได้เอ่ยชื่อสหรัฐฯ บางช่วงของเเถลงการณ์กล่างถึง “บางประเทศ” ที่สร้างอิทธิพลเหนือประเทศใดๆในโลก พร้อมทั้งกระพือความขัดเเย้งและเอามาตรฐานเรื่องประชาธิปไตยของตนเองไปครอบประเทศอื่น
รายเตอร์รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯและทำเนียบขาวสหรัฐฯยังไม่ออกคำแถลงในเรื่องการประกาศกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนเเละรัสเซียในครั้งนี้
- ที่มา: รอยเตอร์