รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันพฤหัสบดีโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า พร้อมส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมูลค่า 2,600 ล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครนและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคยุโรปอีก 18 ประเทศ
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปยังยูเครนอีกครั้ง เพื่อยืนยันการสนับสนุนกรุงเคียฟในการต่อต้านรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมากว่า 6 เดือนแล้ว พร้อมประกาศว่า งบช่วยเหลือด้านความมั่นคงชุดล่าสุดนี้มีไว้เพื่อภูมิภาค “ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะเผชิญกับการรุกรานของรัสเซียในอนาคต”
รายงานข่าวระบุว่า งบความช่วยเหลือนี้รวมความถึงอาวุธ กระสุน และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ จากคลังของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 675 ล้านดอลลาร์ด้วย
นอกจากนั้น รมต.บลิงเคนยังประกาศว่า กระทรวงการต่างประเทศจะร้องขอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณอีก 2,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการลงทุนระยะยาวภายใต้โครงการ Foreign Military Financing เพิ่มเสริมสร้างความมั่นคงให้ยูเครนและประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ อีก 18 ประเทศ
การเดินทางเยือนกรุงเคียฟของ รมต.บลิงเคน ในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติซึ่งเป็นเวทีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็นโอกาสที่ผู้นำทั่วโลกจะได้ยืนยันหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนด้วย
ในระหว่างอยู่ที่กรุงเคียฟ รมต.บลิงเคน ยังได้เข้าเยี่ยมโรงพยาบาลเด็กในเมืองหลวงของยูเครนและพูดคุยกับเด็ก ๆ หลายคน รวมทั้ง เด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงโจมตีของรัสเซียด้วย
องค์กรด้านมนุษยธรรม Save the Children อ้างข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติและระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์มา มีเด็กในยูเครนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเฉลี่ยวันละ 5 คน
ขณะเดียวกัน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดีด้วยว่า แผนความช่วยเหลือด้านความมั่นคงภายใต้งบที่ รมต.บลิงเคน เพิ่งประกาศไปนั้นจะมีทั้ง ปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ ระบบยิงจรวด High Mobility Artillery Rocket System (HIMARS) ขีปนาวุธความเร็วสูงต่อต้านกัมมันตรังสี เครื่องยิงลูกระเบิด พาหนะหุ้มเกราะเพื่องานด้านการแพทย์ และอุปกรณ์สำหรับการใช้งานในยามค่ำคืน รวมทั้งยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ด้วย
เมื่อคิดคำนวณรวมกับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดที่สหรัฐฯ ส่งมอบให้ยูเครนไปแล้วนับตั้งแต่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขึ้นบริหารประเทศ มูลค่ารวมทั้งหมดจะอยู่ที่ราว 15,200 ล้านดอลลาร์
รมต.ออสติน กล่าวว่า สงครามในยูเครนนั้นกำลังเข้าสู่ “ช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงหนึ่ง” ขณะที่ กองกำลังยูเครนเร่งเสริมกำลังการโต้กลับการรุกรานในพื้นที่ภาคใต้ของตนอยู่ และว่า “เรากำลังจะได้เห็นความสำเร็จที่พิสูจน์ให้เห็นกับตาได้ ของความพยายามร่วมกันในสนามรบ” อีกด้วย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา วาเลรี ซาลุชนี ผู้บัญชาการทหารบกยูเครน ประกาศต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่า ยูเครนได้ทำการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพหลายแห่งของรัสเซียในพื้นที่คาบสมุทรไครเมียที่มอสโกผนวกเข้ากับตนเองเมื่อปี ค.ศ. 2014 ตามรายงานของสำนักข่าว เอเอฟพี
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์