งานวิจัยล่าสุดที่เพิ่งมีการเผยแพร่ออกมาเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ระบุว่า สายพันธุ์ของพืชและสัตว์ป่าในโลก อาจจะกำลังเผชิญปัญหาหนักกว่าที่เหล่านักวิทยาศาสตร์เคยรายงานมา
รายงานนี้ชี้ว่า ที่ผ่านมาทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ประเมินสถานะของพืชและสัตว์จำนวนมากกว่า 147,000 สายพันธุ์ แต่ในความเป็นจริงมีข้อมูลของสายพันธุ์ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้ประเมินอย่างเต็มรูปแบบมากถึงหลายพันชนิด ซึ่งส่งผลให้พืชและสัตว์สายพันธุ์เหล่านั้นไม่ถูกจัดรวมอยู่ในรายชื่อสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามหรือใกล้สูญพันธุ์ขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for the Conservation of Nature หรือ IUCN) ที่มีการปรับปรุงข้อมูลเป็นประจำทุกปี
สำหรับสัตว์ที่เชื่อว่าอยู่ในกลุ่มที่ได้รับการประเมินต่ำจากความเป็นจริง มีอาท วาฬเพชฌฆาต ตัวนิ่ม ‘ฟรีอาร์มาดิลโล’ ขนาดเล็กจากอาร์เจนตินา และค้างคาวประเภทต่าง ๆ เกือบ 200 สายพันธุ์จากทั่วโลก
การทำงานของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่ใช้ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมและภัยคุกคามจากมนุษย์ เพื่อทำแผนที่แสดงการประเมินต่อภัยคุกคามการสูญพันธุ์ มองว่า ในบางกรณี การขาดข้อมูลถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์นั้นอาจจะหายากขึ้น เพราะจำนวนประชากรลดลงไปแล้ว
รายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Biology ระบุว่า ทีมวิจัยได้ศึกษาสายพันธุ์จำนวน 7,699 ชนิดที่ถูกประเมินต่ำจากความเป็นจริง และคาดว่า ราว 56% กำลังเผชิญความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ หรือราว 2 เท่าของตัวเลขการประเมินโดย IUCN ที่ชี้ว่า พืชและสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่จัดอยู่ใน “กลุ่มถูกคุกคาม” นั้นมีสัดส่วนอยู่ที่ 28%
รายงานในปี 2019 ของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างประเทศด้านวิทยาศาสตร์และนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศวิทยา (Intergovernmental Science-Policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services หรือ IPBES) ชี้ด้วยว่า มีสายพันธุ์ของพืชและสัตว์จำนวนหลายล้านชนิดที่ IUCN ไม่เคยทำการตรวจสอบ โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์คาดว่า มีราว 1 ล้านสายพันธุ์กำลังถูกคุกคามและมีโอกาสที่จะสูญพันธุ์
ผลการศึกษาของทีมวิจัยเปิดเผยด้วยว่า สายพันธุ์พืชและสัตว์ที่อยู่ในภาวะอันตรายมากที่สุดน่าจะเป็น กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ได้รับการประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง โดยราว 85% ของสัตว์กลุ่มนี้ถูกประเมินว่าน่าจะอยู่ในภาวะถูกคุกคาม
ทั้งนี้ หากสายพันธุ์ใดได้รับการจำแนกจาก IUCN ว่า กำลังถูกคุกคามหรือใกล้สูญพันธุ์ สายพันธุ์เหล่านั้นมักที่จะได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐระดับประเทศเข้ามาให้การคุ้มครอง
พาเมลา กอนซาเลซ เดล พลิเอโก นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัย Evora ในประเทศโปรตุเกส ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการศึกษานี้ ให้ทัศนะว่า การศึกษาดังกล่าว “ได้เน้นย้ำความสำคัญของการจัดสรรทรัพยากรเพื่องานด้านการอนุรักษ์”
แจน บอร์กัท นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัย Norwegian University of Science and Technology ในประเทศนอร์เวย์ และเป็นผู้เขียนงานวิจัย กล่าวว่า สายพันธุ์พืชและสัตว์ที่มี “ข้อมูลไม่เพียงพอ” จำนวนมากเป็นสายพันธุ์ที่มีความหลากหลายต่ำและอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งพบได้ในพื้นที่ของแอฟริกากลาง มาดากัสการ์ และภูมิภาคเอเชียใต้
บอร์กัท กล่าวเสริมว่า ถ้าการคาดการณ์นี้เป็นจริง สภาพธรรมชาติอาจจะตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ มากกว่าที่เราเข้าใจกันก็เป็นได้
- ที่มา: รอยเตอร์