ผลการศึกษาที่ศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติเพิ่งเปิดเผยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า มีชาวอเมริกันเพียง 25% เท่านั้นที่ทราบถึงความพยายามของรัฐบาลครั้งล่าสุดในการส่งเสริมให้ประชาชนทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในปี 2011 กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) เปิดตัวโลโก้ใหม่ซึ่งเป็นภาพที่แสดงถึงสัดส่วนการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยภาพนี้มีชื่อว่า MyPlate และถูกนำมาแทนที่โลโก้ปิรามิดอาหารที่ USDA ใช้มาตั้งแต่ปี 1992 ถึง 2011 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการตำหนิปิรามิดอาหารดังกล่าวว่า ให้ความสำคัญกับคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืชมากเกินไป และให้ความสำคัญกับไขมันไม่เพียงพอ
โลโก้ MyPlate นั้นใช้รูปจานอาหารที่แบ่งส่วนเป็น 4 สีสำหรับผลไม้ ผัก ธัญพืช และโปรตีน โดยมีวงกลมที่มีขนาดเล็กกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น นมไขมันต่ำหรือโยเกิร์ต เพื่อสนับสนุนให้ชาวอเมริกันทานผักและผลไม้ครึ่งหนึ่งในทุก ๆ มื้อ
นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่า ราว 10% ของชาวอเมริกันได้พยายามทำตามคำแนะนำของ MyPlate ซึ่งหมายความว่าโครงการที่มีค่าใช้จ่ายราวปีละ 3 ล้านดอลล่าร์นี้ ยังไม่สามารถสร้างความตระหนักรู้ให้แก่คนอเมริกันส่วนใหญ่ได้เท่าใดเลย นอกจากนี้ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปิดตัวโลโก้ MyPlate อีกด้วย
เอ็ดวินา วามโบโก (Edwina Wambogo) หัวหน้าในการเขียนรายงานการศึกษานี้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของหน่วยงานข้อมูลด้านสุขภาพกล่าวว่า "โลโก้นี้เป็นเครื่องมือทางการศึกษาหลักที่ช่วยสื่อสารแนวทางปฏิบัติสำหรับชาวอเมริกัน" และว่า “MyPlate น่าจะทำได้ดีกว่านี้สักเล็กน้อย”
แมเรียน เนสเซิล (Marion Nestle) ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายอาหารกล่าวว่า โครงการ MyPlate ไม่ได้มีหลักสูตรการศึกษาและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับอาหารหลาย ๆ อย่างที่ชาวอเมริกันรับประทาน
เจ้าหน้าที่ของ USDA รายหนึ่งกล่าวเสริมว่า งบประมาณปี 2023 ที่เสนอโดยหน่วยงานนั้น มีเป้าหมายเพื่อใช้จ่ายในโครงการเพิ่มจากปีละ 3 ล้านดอลลาร์เป็นปีละ 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้โครงการ MyPlate เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า กลุ่มคนที่ทานอาหารที่ดีเป็นพิเศษ ดีมากหรือดี มีแนวโน้มที่จะเคยได้ยินเกี่ยวกับ MyPlate มากกว่าคนที่ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์
อย่างไรก็ดี แพทย์หญิง วิชยา สุรัมภูดี (Dr. Vijaya Surampudi) ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย (University of California) วิทยาเขตลอสแอนเจลิส กล่าวว่า MyPlate ไม่ได้มีรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับไขมันและความแตกต่างระหว่างผักชนิดต่าง ๆ ขณะที่ แมเรียน เนสเซิล ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายอาหารตั้งข้อสังเกตด้วยว่า MyPlate ไม่ได้แสดงให้ทราบว่า ผัก ธัญพืช และอาหารที่ทำจากนมก็มีโปรตีนด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ การศึกษาครั้งใหม่ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ออกมาแนะนำให้มีการทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมว่า เหตุใดคนบางกลุ่มจึงไม่ค่อยรู้จักและปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาล และแนะด้วยว่า จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงผู้คนที่ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
แต่คำตอบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และแพทย์หญิงสุรัมภูดี แนะนำว่า ตอนนี้ผู้คนทราบแล้วว่า ควรกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น แต่ไม่ค่อยจะทราบถึงข้อดีอื่น ๆ ของการเลือกรับประทานอาหาร และหลายคนดูจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมต้องรับรู้ข้อมูลมากมายเท่านี้
แพทย์หญิงสุรัมภูดี กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทันทีเรื่องนี้ฟังดูเข้าใจยากหรือสับสนเพียงแต่นิดเดียว คนก็จะเลิกสนใจทันที”
- ที่มา: เอพี