องค์การอนามัยโลกชี้ว่าการเพิ่มภาษีสรรพาสามิตรจะส่งผลให้บุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบมีราคาแพงขึ้น โดยเห็นว่าการขึ้นภาษีเป็นหนึ่งในวิธีลดการสุบบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งและมีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ยังชี้ด้วยว่ามาตรการทางภาษีนี้ยังผลดีอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือช่วยเพิ่มรายได้แก่รัฐบาล
คุณ Douglas Bettcher ผู้อำนวยการสำนักงานการป้องกันโรคไม่ติดต่อแห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า นโยบายทางภาษีเป็นวิธีที่มีแต่ได้กับได้ เขากล่าวว่ามีนักเศรษฐศาสตร์หลายคนที่เห็นพ้องกันว่า การเพิ่มภาษีสรรพสามิตรเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเป็นมาตรการที่ต้นทุนต่ำที่สุดในการลดการสูบบุหรี่ และการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบลงซึ่งช่วยลดจำนวนคนเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ลง
เขากล่าวว่ามีหลักฐานยืนยันจากหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีนและฝรั่งเศสที่แสดงให้เห็นว่าราคาบุหรี่ที่แพงขึ้นช่วยลดการสูบบุหรี่ลง ข้อมูลจากประเทศตุรกี ประเทศรายได้ปานกลางชี้ว่า หลังจากทางการเพิ่มภาษีบุหรี่ขึ้นไป 50 เปอร์เซ็นต์ มีจำนวนคนสูบบุหรี่น้อยลงในช่วงปี 2009-2014
แต่แม้จะมีความคืบหน้าดังกล่าวข้างต้น รายงานขององค์การอนามัยโลกยังชี้ว่ามาตรการเพิ่มภาษีสรรพสามิตนี้ เป็นวิธีที่นำไปใช้น้อยที่สุดทั่วโลก และมีเพียง 33 ประเทศเท่านั้นที่เก็บภาษีบุหรี่มากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายปลีกต่อหนึ่งซอง
คุณ Bettcher กล่าวว่าการที่ประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่ไม่ใช้มาตรการทางภาษีเพื่อควบคุมการสูบบุหรี่ เพราะมีแรงกดดันจากอุตสาหกรรมยาสูบที่ใช้ยุทธวิธีต่างๆ ขัดขวาง เขากล่าวว่าอุตสาหกรรมยาสูบสร้างความเชื่อที่ผิดๆ ว่าการเพิ่มภาษีบุหรี่จะทำให้มีการค้าบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาชี้ว่านี่เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
เขาชี้ว่าปัญหาการค้าขายบุหรี่เถื่อนต้องได้รับการจัดการแก้ไขเพราะการค้าบุหรี่ผิดกฏหมายเป็นต้นตอของการคอรัปชั่นและทำให้รายได้รัฐบาลลดลง
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ทุกปีมีคนราว 6 ล้านคนส่วนมากอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา เสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ วัณโรคและมาลาเรีย รวมกัน
(รายงานโดย Lisa Schlein เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทย)