องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ประชาคมโลกพยายามแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะที่ความหวังว่าจะมีการอนุมัติวัคซีนดังกล่าวเพื่อใช้งานเริ่มใกล้ความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ
เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ว่า ตนรู้สึกยินดีต่อความสำเร็จของโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีรายงานออกมา โดยเฉพาะ โครงการร่วมระหว่างบริษัทยา ไฟเซอร์ (Pfizer) ของสหรัฐฯ และบริษัท ไบโอเอ็นเทค (BionTech) ของเยอรมนี ที่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติเพื่อการใช้งานฉุกเฉินจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ชี้ว่า ความสำเร็จทางด้านวิทยาศาสตร์นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดและไม่นำไปขยายความเกินจริง เพราะ “ยังไม่เคยมีวัคซีนใดในโลกที่ได้รับการพัฒนาสำเร็จได้รวดเร็วเท่ากับวัคซีน(โควิด) เหล่านี้ และ วงการวิทยาศาสตร์เพิ่งตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับการพัฒนาวัคซีน” พร้อมระบุว่า ความเร่งด่วนของการพัฒนาวัคซีนและการแจกจ่ายอย่างยุติธรรมนั้น ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย
เกเบรเยซุส กล่าวด้วยว่า ประชาคมโลกต้องจัดทำมาตรฐานใหม่เพื่อกำหนดการเข้าถึงวัคซีนทั้งหลายนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า จะมีเพียงพอแจกจ่ายสำหรับประเทศที่ได้ชื่อว่ายากจนที่สุดในโลก ซึ่งองค์การอนามัยโลกกังวลว่า จะถูกมองข้ามและตกขบวนไป
เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกร่วมมือกับหน่วยงานหลายแห่งจัดตั้งโครงการ Access to COVID-19 Tools หรือ ACT และกลุ่มงาน Cooperative Vaccine Development Group หรือ COVAX ด้วยเป้าหมายที่จะช่วยให้นานาประเทศเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยมีสมาชิกเข้าร่วมแล้ว 187 ประเทศ และต้องการเงินลงทุน 4,300 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อจัดหาและนำส่งวัคซีน ชุดตรวจ และยารักษาโควิด-19 ทั้งยังต้องระดมเงินอีก 23,800 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า เพื่อดำเนินแผนงานทั้งหมดนี้
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ทั้งสองโครงการนี้ถือเป็นโอกาสทางการลงทุนที่ดีสำหรับกลุ่มประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจแข่งแกร่งที่สุด และย้ำว่า การเข้าร่วมสนับสนุนโครงการเหล่านี้ไม่ใช่งานด้านการกุศล แต่ะเป็นหนทางที่เร็วที่สุดที่จะยุติการระบาดใหญ่และช่วยเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวในที่สุด
