ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังเริ่มวางแผนแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ภายในปีนี้ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และบางประเทศในยุโรปที่เตรียมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนบางส่วนต้นเดือนหน้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี เยนส์ สปาห์น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ว่า มีปัจจัยที่บ่งชี้ว่ายุโรปอาจมีวัคซีนโควิด-19 ออกมาก่อนสิ้นปีนีั้ และเมื่อผ่านการรับรองแล้วจะสามารถนำมาใช้ได้ทันที
ขณะเดียวกัน สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA มีแผนจะตรวจสอบวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ในช่วงวันที่ 10-12 ธันวาคมนี้ ว่าจะผ่านการรับรองหรือไม่ ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เตรียมแผนในเบื้องต้นที่จะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนดังกล่าวให้แก่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงบางกลุ่มในอีก 1-2 วันจากนั้น ภายใต้โครงการเร่งรัดวัคซีน "Operation Warp Speed"
นายแพทย์มอนเซฟ สลาอูอี หัวหน้าที่ปรึกษาของโครงการดังกล่าว กล่าวกับรายการ "Meet the Press" ของสถานี NBC ในวันอาทิตย์ว่า วัคซีนจะถูกส่งไปยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ในรัฐต่าง ๆ ทันทีภายใน 24 ชม.หลังผ่านการรับรอง นั่นหมายความว่าน่าจะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกได้ภายในสัปดาห์ที่สองของเดือนธันวาคมนี้
นายแพทย์ผู้นี้ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกันที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงอื่น ๆ จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนนี้เมื่อผ่านการรับรองจาก FDA
บริษัทไฟเซอร์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า วัคซีนที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของ FDA มีอัตราความสำเร็จในการป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสราว 95%
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกเกือบ 59 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 1.4 ล้านคน โดยสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือเกินกว่า 12.2 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 256,000 คน
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจของ Ipsos เมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่ามีประชากรโลกราว 73% ที่บอกว่าจะยอมฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดลงจากระดับ 77% เมื่อช่วงฤดูร้อนปีนี้
