คุณ Nathalie Broutet เจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งองค์การอนามัยโลกเป็นหนึ่งในผู้ร่างรายงานผลการวิจัยนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ทีมวิจัยตรวจตัวอย่างอสุจิจากอาสาสมัครชาย 93 คน ที่ได้รับการรักษาหายจากโรคนี้เพื่อดูว่าเชื้ออีโบล่าสามารถคงอยู่ได้นานแค่ไหนในอสุจิ
คุณ Broutet เจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ทีมวิจัยพบว่าเชื้ออีโบล่าสามารถคงอยู่ในอสุจิได้นานถึง 9 เดือน และทำให้ผู้ชายที่เคยติดเชื้ออีโบล่าเสี่ยงที่จะส่งต่อเชื้ออีโบล่าไปสู่คู่นอนได้
อย่างไรก็ตาม คุณ Broutet กล่าวว่าเป้าหมายของการศึกษานี้มุ่งติดตามดูว่าเชื้ออีโบล่าสามารถคงอยู่ได้นานแค่ไหนในอสุจิของผู้ที่หายป่วยจากโรคนี้ ไม่ได้มุ่งศึกษาความเสี่ยงต่อการเเพร่เชื้อผ่านอสุจิ
คุณ Broutet แห่ง WHO กล่าวว่าจะมีการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งแยกออกไปที่จะวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการแพร่เชื้ออีโบล่าผ่านอสุจิไปยังคู่นอนและระดับความเสี่ยง
ผลการศึกษาชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสอีโบล่ายังคงอยู่ในอสุจิของอดีตผู้ติดเชื้ออีโบล่านานกว่าที่คาดเอาไว้ในตอนแรก แต่ความเข้มข้นของเชื้อไวรัสได้ลดลงมาในช่วงหลายเดือนหลังจากหายป่วยจากอีโบล่าแล้ว
การศึกษานี้พบว่ามีระดับเชื้ออีโบล่าปริมาณสูงในอสุจิในช่วงสามเดือนแรกหลังจากหายจากโรค และลดลงมาอย่างมากภายในหกเดือนหลังจากหายป่วย
คุณ Broutet เจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ยังไม่รู้เเน่ชัดว่านานแค่ไหนกว่าเชื้ออีโบล่าในอสุจิของอดีตผู้ติดเชื้อจึงจะหมดไป ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำให้ผู้ที่หายป่วยจากอีโบล่าเข้ารับคำปรึกษา การดูแลและการตรวจเพื่อติดตามผล
คุณ Broutet กล่าวว่าในช่วงสามเดือนแรกหลังจากหายป่วย อดีตผู้ป่วยชายไม่ควรมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัย