องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ย้ำว่า โคโรนาไวรัส โควิด-19 สามารถแพร่ระบาดได้ในทุกสภาพอากาศ และไม่มีเหตุผลยืนยันว่าอากาศที่หนาวเย็นจะสามารถฆ่าเชื้อโรคหรือลดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสได้ ตามรายงานของ Associated Press
องค์การอนามัยโลก ระบุว่า โคโรนาไวรัส โควิด-19 ที่แพร่ระบาดจากคนสู่คนนั้น ฝนและหิมะอาจจะช่วยชะล้างเชื้อโรคที่เกาะบนพื้นผิวสัมผัสตามโต๊ะเก้าอี้หรือสิ่งต่างๆ ด้านนอกอาคารได้ อย่างไรก็ตาม อนามัยโลก มองว่า การระบาดของโควิด-19 ผ่านทางเชื้อโรคที่เกาะบนพื้นผิวสัมผัสนั้น ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญของวิกฤตการระบาดของโควิดทั่วโลก ที่ตอนนี้ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 50 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 1.2 ล้านรายไปแล้ว
จากคำกล่าวของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ว่า สหรัฐฯกำลังเผชิญกับ “ฤดูหนาวอันมืดมิด” หรือ Dark Winter นั้น ทีมนักวิทยาศาสตร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่น่ากังวลสำหรับฤดูหนาวที่จะมาถึง คือ เมื่องอุณหภูมิลดต่ำลง ผู้คนมีแนวโน้มจะอยู่ในอาคารปิดมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะแออัดกันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นโอกาสให้มีการแพร่ระบาดของโควิดได้มากขึ้นนั่นเอง
มีการศึกษาหลายฉบับที่ชี้ว่า มีสัดส่วนของการระบาดของโควิด-19 ภายในเคหสถานมากขึ้น เมื่อผู้คนใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน อย่างเช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
องค์การอนามัยโลก และหน่วยงานอื่นๆ ต่างออกมาเตือนว่า การระบาดของโคโรนาไวรัสในอาคารปิด ที่มีระบบถ่ายเทอากาศที่ย่ำแย่ จากที่ไวรัสสามารถแพร่ผ่านอณูละอองแขวนลอยเล็กๆ ที่ล่องลอยไปในอากาศได้นานหลายชั่วโมง
พื้นที่ปิดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็มีทั้ง ไนท์คลับ ยิม ศูนย์กีฬา กิจกรรมการแสดงร้องเพลงประสานเสียง คอนเสิร์ต เป็นต้น
ขณะเดียวกันรายงานของ Associated Press ระบุว่า โคโรนาไวรัส จะไม่ค่อยแพร่เชื้อในพื้นที่ด้านนอกอากาศที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จากที่เป็นพื้นที่เปิด ให้ผู้คนสามารถรักษาระยะห่างระหว่างกันได้ แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างเตือนว่า มีโอกาสที่โควิด-19 จะแพร่เชื้อกับผู้คนที่อยู่ภายนอกอาคารได้ หากพวกเขาอยู่ในพื้นที่เดิมเป็นเวลานานๆ หรืออยู่ใกล้กับผู้คนที่ไม่สวมหน้ากากปิดปากและจมูกให้มิดชิด
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างเตือนว่า หนทางในการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 คือ การสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ อยู่ห่างจากผู้คนที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกันอย่างน้อย 2 เมตร และล้างมือให้บ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้