องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องรัฐบาลนานาชาติผลักดันมาตรการสนับสนุนการเลิกสูบบุหรี่ของประชาชนในแต่ละประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 100 ล้านคนที่สามารถเลิกบุหรี่ได้ในปีหน้า
องค์การอนามัยโลก ประกาศโครงการ Commit to Quit เมื่อต้นสัปดาห์ มุ่งเน้นไปที่ 22 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ ให้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการเลิกบุหรี่ ก่อนวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมปีหน้า
นายเทดรอส อัดนอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า บุหรี่คร่าชีวิต 8 ล้านคนทั่วโลกทุกปี และหากผู้สูบบุหรี่ต้องการหาแรงจูงใจในการเลิก ช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็เป็นจังหวะที่ดี
เมื่อต้นปี WHO ออกโรงเตือนผู้สูบบุหรี่ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ทำให้ในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส ได้เกิดการรวมกลุ่มของผู้ที่อยากเลิกสูบบุหรี่ขึ้นมา โดยอนามัยโลก พบว่า ผู้สูบบุหรี่ราว 780 ล้านคน บอกว่าอยากเลิกบุหรี่ แต่มีเพียง 30% ในกลุ่มนี้ที่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและทรัพยากรต่างๆเพื่อช่วยให้พวกเขาเลิกบุหรี่ได้
ภายใต้โครงการ Commit to Quit จะสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้ และอนามัยโลกหวังว่ารัฐบาลทั่วโลกจะเร่งช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ด้วยเช่นกัน
ดร.รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพของ WHO กล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกต้องใช้จังหวะที่ผู้คนนับล้านมีความตั้งใจจะเลิกบุหรี่ในตอนนี้ เพิ่มหน่วยบริการที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ ขณะที่ภาครัฐต้องยกระดับนโยบายและมาตรการที่เข้มงวด เพื่อลดโอกาสเติบโตของธุรกิจบุหรี่และยาสูบในแต่ละประเทศลงไปพร้อมกัน
ตอนนี้ WHO นำร่องพัฒนาระบบออนไลน์เพื่อกระตุ้นการเลิกบุหรี่ของผู้คนทั่วโลก ผ่านระบบ Quit Challenge ใน Whatsapp ที่ให้ความช่วยเหลือออนไลน์กับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีทีมช่วยเหลือที่สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และเตรียมเพิ่มอีก 5 ภาษาในเร็วๆนี้