รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนส่งงบประมาณอุดหนุนการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้หนุ่มสาวพบรัก ในยุคที่อัตราการเกิดในประเทศหดตัวหนักต่อเนื่อง
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า จำนวนเด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมาลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุดที่ราว 865,000 คน ซึ่งเป็นการหดตัวจากปีก่อนหน้า 5.8 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ตัวเลขนี้ต่ำลงคือ การที่ชาวญี่ปุ่นแต่งงานกันน้อยลง ขณะที่อายุของคู่สมรสในยุคนี้กลับสูงขึ้นกว่าในอดีต
และเนื่องจากสังคมญี่ปุ่นคุ้นเคยกับการแนะนำจัดหาคู่กันมานาน รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งตัดสินใจหันมาลองใช้ระบบหาคู่ที่ผูกกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการช่วยให้คนพบรักกันแล้ว แต่ว่า ส่วนใหญ่จะใช้ตัวแปรพื้นฐานเพียงเรื่องของ รายได้และอายุ ซึ่งทำให้เกิดการจับคู่กันได้ไม่มากเท่าใด
แต่หนังสือพิมพ์ โยมิอูริ ชิมบุน รายงานว่า ล่าสุด รัฐบาลกลางญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณกลางที่จะช่วยยกระดับระบบดังกล่าว เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นพบเนื้อคู่ได้มากขึ้น แม้ว่าปัจจัยด้านรายได้หรืออายุจะไม่เข้ากันก็ตาม
ตัวแปรใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ AI ช่วยหาคู่นั้นประกอบด้วยประเด็นเช่น งานอดิเรก และข้อมูลด้านอื่นๆ ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์การจับคู่มากขึ้น แต่กระบวนการนี้หมายถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงตามไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ที่เมืองไซตามะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว รัฐบาลท้องถิ่นลงทุนเป็นเงิน 15 ล้านเยน หรือราว 144,000 ดอลลาร์ ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 เพื่อใช้ AI ช่วยหาคู่ และได้ผลสำเร็จออกมาเพียง 21 คู่เท่านั้น ขณะที่ ข้อมูลจากรัฐบาลกลางพบว่า มีคู่สมรสหย่าร้างกันไปแล้วกว่า 200,000 คู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2000 และปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางญี่ปุ่นประกาศจะช่วยรับผิดชอบราว 60 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนการพัฒนาระบบ AI ที่ล้ำสมัยขึ้น ซึ่งจะมาจากงบประมาณ 2,000 ล้านเยนที่วางไว้เพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดอันตกต่ำในปีงบประมาณหน้า และเป็นสิ่งที่รัฐบาลกรุงโตเกียวหวังว่า จะช่วยให้รัฐบาลท้องถิ่นทั้งหลายประสบความสำเร็จในการช่วยให้ประชาชนพบรัก ลงหลักปักฐาน และสร้างครอบครัวมากขึ้นในที่สุด
