ธนาคารเวสต์แพ็ค (Westpac) ของออสเตรเลีย ยอมตกลงจ่ายค่าปรับสูงเป็นประวัติการณ์ หลังถูกตรวจพบว่าทำการละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า ธนาคารเวสต์แพ็ค ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับแก่รัฐบาลออสเตรเลียเป็นจำนวนถึงกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังทีมสอบสวนของรัฐบาลกล่าวหาว่า บริษัททำผิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ถึง 23 ล้านครั้ง
การสืบสวนชี้ว่า ธนาคารแห่งนี้ยินยอมให้มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฉวยประโยชน์จากเด็กในประเทศฟิลิปปินส์ และในหลายประเทศ แม้ว่าจะได้รับคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมแล้วก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ธนาคารเวสต์แพ็ค ได้จัดสรรเงินจำนวน 630 ล้านดอลลาร์ไว้เพื่อจ่ายเป็นค่าปรับ แต่หน่วยงานกำกับดูแล Australian Transaction Reports and Analysis Center (AUSTRAC) ปฏิเสธว่า ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับความผิดที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างร้ายแรงดังว่า
คริสเตียน พอร์เตอร์ อัยการที่ดูแลคดีนี้ให้ความเห็นว่า การที่ธนาคารแห่งนี้ยอมตกลงยอมความที่จะจ่ายเงินค่าปรับก้อนโต ถือเป็นบทสรุปที่เป็นธรรมแล้ว
ขณะเดียวกัน ธนาคารเวสต์แพ็คได้ออกมาขอโทษต่อความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยืนยันว่าจะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาทั้งหลายเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ ซีอีโอและประธานธนาคารคนก่อนตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งไปหลังมีรายงานการสอบสวนออกมาเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี นักการเมืองฝ่ายค้านของออสเตรเลียยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อทำให้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินของออสเตรเลียเข้มแข็งขึ้นต่อไป