รายงานของสถาบันคลังสมองในสวีเดน ระบุว่า มูลค่าการใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 8 ปีติดต่อกัน และอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นสถิติใหม่ด้วยมูลค่า 2.24 ล้านล้านดอลลาร์
Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) เผยว่า ยุโรปมีการใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากสงครามในยูเครน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 13% เทียบกับมูลค่าการใช้จ่ายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อปีที่แล้ว
"ความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครน และความกังวลต่อภัยคุกคามจากรัสเซีย ส่งผลอย่างมากให้หลายประเทศเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร" รายงานระบุ
SIPRI ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว ประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 56% ของการใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลก
นัน เทียน นักวิจัยโครงการค่าใช้จ่ายด้านการทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI เชื่อว่า "การเพิ่มขึ้นนี้คือสัญญาณว่าเราใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่มีความไม่มั่นคงมากขึ้น"
ประเทศที่มีค่าใช้จ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา คือประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย ได้แก่ ฟินแลนด์ (36%) ลิทัวเนีย (27%) สวีเดน (12%) และ โปแลนด์ (11%)
ทั้งฟินแลนด์และสวีเดนต่างสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ในปี 2022 ถือเป็นการละทิ้งจุดยืนไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางการทหารซึ่งใช้มานานหลายสิบปี โดยฟินแลนด์ได้รับการรับรองเข้าเป็นสมาชิกไปแล้ว ในขณะที่สวีเดนยังคงถูกคัดค้านจากตุรกีและฮังการี
ลอเรนโซ สคาแรซซาโต นักวิจัยของ SIPRI กล่าวว่า "เหตุการณ์รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ส่งผลให้การใช้จ่ายด้านการทหารของประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ความกังวลต่อความก้าวร้าวของรัสเซียก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน"
"ประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตในฝั่งยุโรปตะวันออก ต่างเพิ่มงบประมาณด้านการทหารมากกว่าสองเท่านับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่รัสเซียควบรวมแคว้นไครเมียเป็นของตน" นักวิจัยผู้นี้ระบุ
รายงานของ SIPRI ชี้ว่า รัสเซียเองก็เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารราว 9.2% ในปี 2022 เป็นประมาณ 86,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 4.1% ของมูลค่าจีดีพีของรัสเซียในปีเดียวกัน เพิ่มขึ้นจาก 3.7% ในปีก่อนหน้านั้น
- ที่มา: เอพี