ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จีนเพิ่มงบกลาโหม 7.2% เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพกำลังพลใหญ่ที่สุดในโลก


FILE - Onlookers wave Chinese flags as military vehicles carrying DF-41 ballistic missiles pass during a parade in Beijing, China, Oct. 1, 2019.
FILE - Onlookers wave Chinese flags as military vehicles carrying DF-41 ballistic missiles pass during a parade in Beijing, China, Oct. 1, 2019.

จีนประกาศเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอีก 7.2% ในปีงบประมาณ 2023 เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.1% เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร 8 ปีติดต่อกัน

เมื่อวันอาทิตย์ ทางการจีนประกาศงบประมาณด้านการทหารประจำปี 2023 มูลค่า 1.55 ล้านล้านหยวน หรือ 224,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วราวสองเท่า

ปัจจุบัน จีนคือประเทศที่มีงบประมาณทางทหารมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ แต่จีนมีกำลังพลมากที่สุดและมีขนาดกองกำลังทางนาวีใหญ่ที่สุดในโลกด้วย อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกายังคงมีกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

เมื่อเร็ว ๆ นี้ จีนเพิ่งเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สาม และเพิ่มจำนวนขีปนาวุธในคลังสรรพาวุธ เพิ่มจำนวนเครื่องบินล่องหนและเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ เรือรบและเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น

China's aircraft carrier Liaoning takes part in a military drill of Chinese People's Liberation Army (PLA) Navy in the western Pacific Ocean, April 18, 2018. Picture taken April 18, 2018.
China's aircraft carrier Liaoning takes part in a military drill of Chinese People's Liberation Army (PLA) Navy in the western Pacific Ocean, April 18, 2018. Picture taken April 18, 2018.

ทั้งนี้ กองทัพประชาชนจีนที่มีจำนวนกำลังพล 2 ล้านคน อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่นำโดยคณะกรรมการพรรคซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นผู้นำ

นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่ง กล่าวในรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จีนยังคงยึดมั่นกับการเป็นผู้นำอย่างสมบูรณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์เหนือกองทัพประชาชนจีน และว่า "กองทัพจีนได้เพิ่มความพยายามในการสนับสนุนความจงรักภักดีทางการเมือง และเพิ่มความแข็งแกร่งผ่านการปฏิรูป การพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนฝึกฝนบุคลากร และดำเนินการบริหารจัดการภายใต้ระบอบกฎหมาย"

นายกฯ หลี่ ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จของกองทัพจีนในการป้องกันประเทศและการพัฒนาด้านการทหารซึ่งทำให้จีนมีกองทัพที่ทันสมัยและมีศักยภาพสูง เพื่อการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ เช่น ปกป้องพรมแดน ปกป้องสิทธิทางทะเล ต่อต้านการก่อการร้าย รักษาเสถียรภาพและความมั่นคง รวมถึงการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์

รายงานของธนาคารโลกระบุว่า เมื่อปี 2021 จีนจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหม 1.7% ของมูลค่าจีดีพีทั้งหมด เทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งจัดสรรงบประมาณ 3.5% ของจีดีพีเพื่อใช้จ่ายด้านการทหาร

และในขณะที่ทางการจีนกล่าวว่า งบประมาณด้านกลาโหมส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับการปรับปรุงอาวุธและกำลังพลที่มีอยู่ แต่กองทัพจีนก็ได้ขยายปฏิบัติการในต่างประเทศมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รวมทั้งการตั้งฐานทัพแห่งแรกในแถบตะวันออกของทวีปแอฟริกาในส่วนที่เรียกว่า ฮอร์น ออฟ แอฟริกา และการสร้างฐานทัพเรือที่กัมพูชา

การขยายอิทธิพลทางทหารของจีนได้ก่อให้เกิดความกังวลต่อสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งไต้หวันที่จีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ นำไปสู่การทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ซึ่งยิ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อรัฐบาลกรุงปักกิ่ง

นอกจากนี้ การขยายศักยภาพในอุตสาหกรรมอาวุธของจีนยังทำให้เกิดความกังวลว่า จีนอาจยื่นมือช่วยเหลือด้านการทหารให้แก่รัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน จนทำให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกหลายประเทศต้องออกมาเตือนจีนในเรื่องนี้

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG