ทีมวิจัยในเมือง Portland ผสมผสานการท่องเที่ยวแบบรำลึกความหลังในชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุห่างไกลจากภาวะความจำเสื่อมได้
หญิงชายวัยเกษียณในเมือง Portland ร่วมเป็นอาสาสมัครของการวิจัยจาก Oregon Health and Science University พวกเขาเดินลัดเลาะไปตามถนนและชุมชนที่พวกเขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่ยังหนุ่มสาว พร้อมกับหวนรำลึกความหลังครั้งเก่า เพื่อให้ชะลอภาวะสูญเสียความทรงจำ ที่เป็นส่วนหนึ่งของโรคอัลไซเมอร์ส
การศึกษานี้ คือ การแลกเปลี่ยนเรื่องราวความหลังผ่านการบรรยายและภาพถ่าย หรือ Sharing History through Active Reminiscence and Photo imagery เรียกสั้นๆ ว่า SHARP เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านความจำ ให้ออกไปเดินกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีความจำปกติราว 3 ครั้งต่อสัปดาห์
Raina Croff นักวิจัยจาก Oregon Health and Science University บอกว่า กิจกรรมที่ใช้ทดสอบนี้ช่วยให้สมองทำงานได้ดี เริ่มตั้งแต่การเดินที่ดีต่อสุขภาพสมอง การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และการเดินไปตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับทบทวนความหลังไปด้วย จะช่วยกระตุ้นสมองด้านความจำ และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ให้คนสูงอายุได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมในชุมชนของพวกเขาด้วย
ผู้สูงอายุที่มีเข้าข่ายสูญเสียความจำ 1 คน จะเดินทางไปพร้อมกับผู้สูงอายุที่มีความจำปกติอีก 2 คน พวกเขาจะได้แท็ปเล็ตที่บันทึกแผนที่พร้อมกับโปรแกรมนำทางไปรอบๆ ชุมชนผิวสีในเมือง Portland โดยแต่ละจุดแวะชมจะเปิดโอกาสให้ทั้ง 3 ดูภาพเก่าๆ และเล่าเรื่องราวความหลังของพวกเรากับพื้นที่เหล่านี้
Sharon Steen หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ SHARP นี้บอกว่า สิ่งที่พวกเขาค้นพบตลอดการเดินรอบพื้นที่ คือ มีหลายสิ่งที่พวกเขาจำไม่ได้ แต่เมื่อเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับพูดคุยกันไปตลอดทาง ความจำเหล่านั้นก็กลับมา ทำให้รู้ว่าความทรงจำเหล่านั้นยังคงอยู่และเราเข้าถึงมันได้
ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันทั้งสิ้น เนื่องจากการวิจัยพบว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่าชาวอเมริกันผิวขาวถึง 2 เท่า แต่กลับไม่ได้รับการทดสอบด้านภาวะความจำเสื่อมเท่าที่ควร
Maria Carrillo หัวหน้าฝ่ายพฤติกรรมศาสตร์ Alzheimer’s Association บอกว่า 95% ของผู้ที่ทดสอบภาวะความจำเสื่อมเป็นคนอเมริกันผิวขาว ซึ่งทีมแพทย์ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเลขเหล่านั้น เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงอัลไซเมอร์ที่ตกสำรวจว่าพวกเขามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่
ในระหว่างนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการ SHARP ยังคงเดินและพูดคุยกัน ด้วยความหวังว่าจะลดโอกาสความจำเสื่อมได้ในอนาคต
