บริษัทผู้ผลิตรถสัญชาติเยอรมัน โฟล์คสวาเกน คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของตนในปีนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หลังเปลี่ยนแปลงนโยบายมามุ่งเน้นตลาดรถประเภทนี้เต็มรูปแบบ
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทโฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก เปิดเผยในวันพุธตามเวลาในเยอรมนี ว่า บริษัทตั้งเป้าจะผลิตและนำส่งรถพลังงานไฟฟ้าของแบรนด์นี้กว่า 450,000 คันภายในปีนี้ ขณะที่เป้ารวมของรถไฟฟ้าจากทุกแบรนด์ของบริษัทนั้นอยู่ที่ 1 ล้านคัน
นอกจากแบรนด์ โฟล์คสวาเกน แล้ว บริษัทแห่งนี้ยังเป็นเจ้าของรถแบรนด์ดังมากมายเช่น เบนท์ลีย์ บูกาติ แลมบอร์กินี และปอร์เช่ เป็นต้น
โฟล์คสวาเกน ยังมุ่งหวังที่จะเห็นรายได้จากยอดขายและกำไรของบริษัทในปีนี้พุ่งสูงอย่างมากจากปีที่แล้ว ภายใต้แผนงานนี้ด้วย
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถสัญชาติเยอรมันรายนี้เพิ่งเปิดตัวยุทธศาสตร์ “เร่งเครื่อง” หรือ Accelerate สำหรับแบรนด์รถหลักของบริษัท ด้วยการปรับสัดส่วนรถไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถในยุโรปภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากระดับ 35 เปอร์เซ็นต์ ที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังวางแผนลงทุนในแบรนด์ “โฟล์คสวาเกน” อีก 16,000 ล้านยูโร (ราว 19,000 ล้านดอลลาร์) สำหรับการพัฒนาระบบไฟฟ้าและดิจิทัลของแบรนด์ภายในปี ค.ศ. 2025 อีกด้วย
และเพื่อให้ดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวให้สำเร็จ โฟล์คสวาเกน ประกาศลดต้นทุนคงที่ของตนลง 5 เปอร์เซ็นต์ภายใน 2 ปีข้างหน้า และหยุดการว่าจ้างงานเพิ่มไว้ รวมทั้ง เพิ่มระดับการผลิตที่โรงงานทั้งหมดอีก 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี พร้อมๆ กับการลดต้นทุนวัตถุดิบลง 7 เปอร์เซ็นต์ด้วย