บริษัทมือถือยักษ์ใหญ่นานาชาติต่างเข้าไปใช้ประโยชน์จากค่าจ้างเเรงงานที่ต่ำของเวียดนามมานานเเล้วใ นการประกอบสินค้าอิเลคทรอนิคส์ผู้บริโภคเพื่อการส่งออก
การลงทุนจากต่างประเทศเหล่านี้ ช่วยสร้างเครือข่ายซับพลายวัตถุดิบ ชิ้นส่วนเเละความรู้เเก่เวียดนามอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทท้องถิ่นในเวียดนามต้องการเพื่อผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนเอง
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพท์เเละค้าปลีก Vingroup ได้เริ่มขายโทรศัพท์ในเดือนธันวาคม โดยวางแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสเปนในการเพิ่มการผลิตในช่วงสองปีข้างหน้า
บรรดานักวิเคราะห์ในเวียดนามบอกว่า บริษัท Vingroup น่าจะมี supply chain ภายในประเทศที่เเข็งขัน นอกเหนือจากเเรงงานจำนวนมาก แต่จะต้องพยายามหาทางดึงดูดผู้บริโภคที่นิยมใช้สินค้ายี่ห้อต่างประเทศมากกว่า
เฟรดเดอริค เบิร์ก ผู้ร่วมลงทุนในบริษัทกฏหมาย Baker McKenzie ในเมือง Ho Chi Minh กล่าวว่า เริ่มมีชิ้นส่วนมากชนิดขึ้นที่ผลิตขึ้นในเวียดนาม ขณะที่บริษัทเกาหลีเเละไต้หวันเเละชาติอื่นๆ ย้ายฐานผลิตชิ้นส่วนมาที่เวียดนาม
ยอดขายโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ผลิตโดยบริษัทเวียดนามที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจเวียดนามดีขึ้น โดยเวียดนามพึ่งเเรงงานค่าจ้างถูกกับการรับออเดอร์ประกอบชิ้นส่วนจากต่างประเทศเป็นหลักมานาน
ทัน โว นักวิเคราะห์อาวุโสที่บริษัทวิจัยการตลาด IDC Indochina ในเมือง Ho Chi Minh กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทเวียดนามได้ผลิตโทรศัพท์มือถือท้องถิ่นออกมาหลายตัวภายใต้ยี่ห้อ Qphone เเละ Mobiistar เเต่ยุทธศาสตร์การตลาดที่ไม่เเข็งนักเเละการขาดความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ทำให้โทรศัพท์หลายตัวถูกเลิกผลิตไป
โวกล่าวว่า แรงงานสำหรับการผลิตโทรศัพท์มือถือในประเทศจะเป็นชาวเวียดนามเป็นส่วนมาก เขากล่าวว่าจากประสบการณ์ส่วนตัว บริษัท Vingroup จะจ่ายเงินเดือนที่สูงกว่าเพื่อดึงดูดทรัพยากรบุคคลจากบริษัทคู่เเข่ง
ในปี ค.ศ. 2015 บริษัทผู้ผลิตมือถือเเละซอฟเเวร์ BKAV Corp. กลายเป็นบริษัทเเรกที่ผู้บริโภคเเละนักวิเคราะห์มองว่าประสบความสำเร็จเป็นเจ้าแรก
มือถือชิ้นเเรกๆ ของ BKAV คือ BPhone กับ BPhone 2 ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก เเต่ BPhone 3 ที่ราคาเครื่องละ 314 ดอลล่าสหรัฐฯ หรือราวหมื่นบาท ที่ออกมาวางตลาดเมื่อปีที่แล้วได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบการประมวลผลมีความเร็วสูงเเละกันน้ำ
การลงทุนต่างชาติด้านการผลิตในเวียดนามกำลังกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจราวร้อยละ 6 ถึงร้อยละ7 ทุกปี ผลผลิตมวลรวมของชาติเพิ่มขึ้นที่เกือบร้อยละ 7.1 ในปีที่เเล้ว สูงที่สุดในรอบ 11 ปี
บริษัท Boston Consulting Group ประมาณว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะช่วยเพิ่มจำนวนชนชั้นกลางไปอยู่ที่ราว 1 ใน 3 ของประชากร 96 ล้านคนของเวียดนามภายในปีหน้า เเต่ผู้บริโภคส่วนมากจากทุกสาขาอาชีพรวมทั้งชาวประมงเเละคนเก็บขยะ ต่างใช้มือถือยี่ห้อดังๆ ของ Apple เเละ Samsung
โวกล่าวว่าเนื่องจากผู้บริโภคมักเลือกโทรศัพท์มือถือที่การออกแบบเเละราคามากกว่าประเทศที่ผลิต บริษัทเวียดนามต้องปรับปรุงการตลาดเเละมองให้ออกว่าผู้บริโภคในประเทศต้องการอะไรก่อนที่จะเริ่มการผลิต เขากล่าวอีกว่าชาวเวียดนามต้องการซื้อโทรศัพท์ที่ราคาราว 200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือหกพันกว่าบาทเท่านั้น
เควิน สโนว์บอล ซีอีโอแห่งบริษัท PXP Vietnam Asset Management ในเมือง Ho Chi Minh กล่าวว่าได้เห็นหลายบริษัทในเวียดนามลองลงมือผลิตมือถือมามากมายเเละหลายรายล้มเหลว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมาวิเคราะห์กันดูว่าคนเวียดนามอยากที่จะซื้อมือถือของ Vinsmart มากกว่ามือถือของ Samsung หรือ มือถือของ Apple หรือไม่
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)