สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติอย่างท่วมท้น 407 ต่อ 19 ผ่านร่างกฎหมายที่จะมุ่งควบคุมและจำกัดข้อยกเว้นเรื่องการไม่ต้องขอวีซ่าโดยพลเมืองจาก 38 ประเทศที่อยู่ใต้โครงการ Visa Waiver Program หากปรากฏว่าพลเมืองของประเทศดังกล่าวเคยไปเยือนอิรัก ซีเรีย หรือบางประเทศหรือพื้นที่ซึ่งเป็นที่กังวลตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา
และกำหนดให้คนเหล่านี้ที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต้องไปรับการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับเจ้าหน้าที่กงสุล รวมทั้งต้องผ่านการตรวจประวัติอย่างละเอียดด้วยแทนที่จะได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าโดยอัตโนมัติ
ตามตัวเลขของปี 2556 นั้น มีพลเมืองจาก 38 ประเทศซึ่งได้รับการยกเว้นวีซ่าและสามารถอยู่ในสหรัฐฯ ได้นาน 90 วันในโครงการ Visa Waiver Program นี้ เดินทางเข้าสหรัฐฯ กว่า 21 ล้านคน แต่ความกังวลเรื่องการก่อการร้ายเป็นเหตุผลของการผ่านร่างกฏหมายแก้ไขกฏเกณฑ์เรื่องนี้
คลิ้กดูรายชื่อ 38 ประเทศ ซึ่งได้รับการยกเว้นวีซ่าและสามารถอยู่ในสหรัฐฯ ได้นาน 90 วันในโครงการ Visa Waiver Program
และเมื่อต้นสัปดาห์ระหว่างการปราศรัยจากทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโอบาม่าได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ทบทวนกฏเกณฑ์การออกวีซ่าประเภท K-1 สำหรับคู่หมั้นของคนอเมริกันเพื่อไปแต่งงานในสหรัฐฯ
โดยในแต่ละปีจะมีพลเมืองของต่างชาติได้รับวีซ่าประเภท K-1 นี้ราว 25,000 คน แต่การที่นาง Tashfeen Malik สตรีชาวปากีสถานผู้เป็นหนึ่งในมือปืนสังหารหมู่ที่เมือง San Bernardino ได้รับวีซ่าประเภทนี้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความหละหลวมและช่องโหว่เกี่ยวกับการออกวีซ่าประเภทดังกล่าว