เมื่อวันศุกร์ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ระบุว่า สหรัฐฯ และเม็กซิโกต้องร่วมมือกันเพื่อลดปัญหาผู้อพยพจากเม็กซิโก ด้วยการรับมือกับต้นตอปัญหาความรุนแรงและการทุจริตในทวีปอเมริกากลาง
รองผู้นำสหรัฐฯ ระบุระหว่างการหารือด้านผู้อพยพออนไลน์กับประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก โดยนางแฮร์ริสระบุกับผู้นำเม็กซิโกว่า การระบุถึงปัญหาต้นตอของการอพยพจากเอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และฮอนดูรัส ในทวีปอเมริกากลาง จะเป็นไปเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทั้งสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ไซมอน แซนเดอส์ โฆษกของนางแฮร์ริส ระบุในแถลงการณ์หลังการหารือดังกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับความด้อยพัฒนาทางเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการอพยพจากกลุ่มประเทศดังกล่าว
แซนเดอส์ระบุว่า สหรัฐฯ และเม็กซิโก จะใช้ทรัพยากรและทักษะความรู้เพื่อรับมือกับความท้าทาย เช่น การว่างงาน การเข้าถึงตลาดอย่างจำกัด การลดลงของป่าไม้ และการไม่มีเสถียรภาพในภูมิภาพอันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มอบหมายให้รองผู้นำสหรัฐฯ รับผิดชอบการลดการอพยพเข้าเมืองที่ชายแดนสหรัฐฯ ทางตอนใต้ โดยตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเด็กๆ ที่เดินทางข้ามชายแดนโดยไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาด้วยแล้วกว่า 20,000 คน
ผู้นำเม็กซิโกกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการหารือกับนางแฮร์ริสว่า เขาสนับสนุนการอพยพอย่างปลอดภัย และเขามีข้อเสนอพิเศษที่จะหารือกับรองผู้นำสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ เสนอโครงการจ้างงานด้วยการปลูกต้นไม่ในทวีปอเมริกากลางเพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้วีซ่าทำงานในสหรัฐฯ โดยเขากล่างถึงแผนนี้ครั้งแรกในการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความประหลาดใจของผู้เข้าร่วมการประชุมบางส่วน
ผู้นำเม็กซิโกกล่าวหลังการหารือกับรองผู้นำสหรัฐฯ ว่า ความสัมพันธ์ทางการเมืองและทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศมีชายแดนร่วมกันที่ยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และ “ต่างฝ่ายต่างต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน” โดยเม็กซิโกยืนยันจะให้ความช่วยเหลือสหรัฐฯ
เมื่อวันพุธ นางแฮร์ริสระบุว่า จะเดินทางเยือนเม็กซิโกและกัวเตมาลาในวันที่ 7-8 มิถุนายน เพื่อหาทางออกของความท้าทายเรื่องผู้อพยพ ซึ่งจะเป็นการเดินทางไปยังต่างประเทศครั้งแรกของเธอในฐานะรองประธานาธิบดี
ก่อนการหารือครั้งนี้ ผู้นำเม็กซิโกยังระบุด้วยว่า รัฐบาลเม็กซิโกส่งจดหมายทางการทูต ขอให้สหรัฐฯ อธิบายการที่องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ มอบเงินสนับสนุนองค์กร Mexicans Against Corruption and Impunity ซึ่งเป็นกลุ่มสืบสวนการทุจริตทางการเมือง โดยเขากล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวพยายามทำลายรัฐบาลเม็กซิโก และที่สหรัฐฯ มอบเงินแก่องค์กรดังกล่าวเป็นการ “สนับสนุนรัฐประหารรูปแบบหนึ่ง”