ประกาศของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่จะทำการสอบสวนข้อกล่าวหาว่า ผู้ผลิตแผงโซลาร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ชิ้นส่วนจากจีนและส่งสินค้าเข้ามาในสหรัฐฯ โดยหลบเลี่ยงกำแพงภาษีที่ตั้งไว้สำหรับจีน กำลังก่อกระแสความกังวลต่อผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมาก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาว่า จะมีการสืบสวนตามข้อกล่าวหาของบริษัท อ๊อกซิน โซลาร์ (Auxin Solar) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่อ้างว่า อุปกรณ์แผงโซลาร์ที่ผลิตในกัมพูชา มาเลเซีย ประเทศไทย และเวียดนาม มีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ใกล้ชิดกับบริษัทในจีนที่ผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วนสำหรับการประกอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
เมื่อปี ค.ศ. 2011 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินว่า จีนทำการ “ทุ่มตลาด” แผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ด้วยการทำราคาต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจสัญชาติอเมริกันต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถแข่งขันด้วยได้ ก่อนจะประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จากจีนที่อัตรา 250% ของราคาขาย
มาตรการดังกล่าวทำให้การนำเข้าผลิตภัณฑ์นี้จากจีนลดฮวบจากระดับ 2,800 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2011 มาอยู่ที่ไม่ถึง 400 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2020
อย่างไรก็ตาม บ.อ๊อกซิน อ้างว่า แม้การนำเข้าจากจีนจะหดไปถึง 86% ในช่วงที่ผ่านมา การนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจาก กัมพูชา มาเลเซีย ประเทศไทย และเวียดนาม กลับพุ่งขึ้นถึง 868% ทั้งยังชี้ว่า การส่งออกวัตถุดิบและชิ้นส่วนแผงโซลาร์จากจีนไปยัง 4 ประเทศนี้ในช่วงเวลาเดียวกันก็ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วย
โฆษกของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อธิบายรายละเอียดการสืบสวนผ่านทางอีเมล์ที่ส่งให้ วีโอเอ ว่า กระบวนการดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และยืนยันว่า ทางกระทรวงฯ จะดำเนินการอย่างโปร่งใสและเปิดกว้าง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อกล่าวหานี้มีมูลหรือไม่ โดยในเวลานี้ จะยังไม่มีการประกาศเรียกเก็บภาษีใดๆ เพิ่ม
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ วางแผนที่จะสรุปการสืบสวนในชั้นต้นภายใน 150 วัน และทำการตัดสินในขั้นสุดท้ายภายใน 300 วัน
ที่ผ่านมา รัฐบาลของประเทศทั้ง 4 ที่ถูกกล่าวหานั้นยังไม่ได้ตอบโต้กรณีที่ว่านี้ออกมามากนัก ยกเว้นแต่รัฐบาลไทยที่ประกาศว่า ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แล้ว ขณะที่ วีโอเอ ติดต่อไปยังตัวแทนรัฐบาลทั้งหมดในสหรัฐฯ เพื่อขอความเห็น แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา
และระหว่างที่การสืบสวนของรัฐบาลยังเดินหน้าอยู่นี้ ตัวแทนธุรกิจที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ กลับมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นคู่แข่งของ อ๊อกซิน โซลาร์ รวมทั้งกลุ่มตัวแทนอุตสาหกรรมแผงโซลาร์ ที่แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยการการร้องเรียนครั้งนี้ และระบุในบทความแสดงความคิดเห็นว่า หากมีการปรับขึ้นภาษีขึ้นอีก อนาคตของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ จะมีปัญหาได้
นอกจากนั้น ข้อพิพาทนี้ยังกลายมาเป็นภาวะคืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ชูทั้งนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาด และการหนุนให้ผู้ผลิตในสหรัฐฯ สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้
