กระทรวงการต่างประเทศไทย ยืนยัน รัฐบาลไทยทำความร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ดำเนินการร่วมกับประเทศพันธมิตรอื่นๆ
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวผ่านคำแถลงเกี่ยวกับรายงานข่าวการที่สหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับไทยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เดินหน้าใช้ช่องทางการทูตเพื่อจัดหาวัคซีนดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนมาโดยตลอด โดยระบุว่า “ได้พยายามเจรจาหารือเพื่อผลักดันความเป็นไปได้ของความร่วมมือด้านวัคซีนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การจัดซื้อ การรับความช่วยเหลือวัคซีน รวมถึงผลักดันการทำ vaccine swap กับหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และสหรัฐฯ”
นายธานี ยืนยันด้วยว่า ในส่วนของความร่วมมือด้านวัคซีนกับสหรัฐฯ นั้น “กระทรวงการต่างประเทศได้ผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ในทุกระดับ” ซึ่งรวมถึง การสื่อสารผ่านส่วนกลางกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน รวมทั้งการหารือในระดับรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และประเทศไทยตั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย
ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ออกคำแถลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 กับประเทศไทย ที่ระบุว่า ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจำนวนหนึ่งภายใต้แผนงานของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะส่งมอบวัคซีนโควิด-19 จำนวน 80 ล้านโดสให้กับประเทศต่างๆ
คำแถลงดังกล่าว ระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะมอบวัคซีนกว่า 23 ล้านโดสให้กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยการบริจาควัคซีนเหล่านี้เป็นความช่วยเหลือที่นอกเหนือจากความช่วยเหลือมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญที่สหรัฐฯ ได้มอบผ่านทางโคแวกซ์ ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้แก่นานาประเทศอย่างเท่าเทียม โดยรวมถึงวัคซีนไฟเซอร์ 500 ล้านโดสในปีที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศไทยยืนยันว่า กำลังทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการรับมอบวัคซีนจากสหรัฐฯ รวมทั้งความพร้อมด้านแผนบริหารจัดการและจัดสรรวัคซีนดังกล่าวในประเทศไทย
นายธานี กล่าวในคำแถลงล่าสุดด้วยว่า การมอบความช่วยเหลือวัคซีนของสหรัฐฯ ให้กับประเทศไทยในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นความต่อเนื่องของความร่วมมือด้านการสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดที่ดำเนินมานาน โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ยังสะท้อนถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มายาวนานกว่า 188 ปี อีกด้วย