เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า การสู้ศึกการระบาดของโคโรนาไวรัสในประเทศจะมีความรุนแรงและยากลำบากมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
นายแพทย์ วิเวก เมอร์ธี แพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ในวันอาทิตย์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศกำลังพุ่งสูงในเวลานี้ ขณะที่ ความสามารถในการดูแลคนไข้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ล้วนมีความยากลำบากมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม นพ.เมอร์ธี ยังมองโลกในแง่ดีว่า สหรัฐฯ จะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากเข็ญนี้ไปได้ และทางการจะเดินหน้าเร่งทำการตรวจหาเชื้ออย่างเต็มที่ และผลักดันให้ชุดตรวจการติดเชื้อด้วยตนเองมีจำหน่ายอย่างทั่วถึงสำหรับประชาชนทุกคนในเร็วๆ นี้ด้วย
ถึงกระนั้น นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่เทียบเท่า อธิบดีกรมอนามัยของไทย รู้สึก “ผิดหวังอย่างมาก” ต่อคำตัดสินของศาลสูงสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้ามไม่ให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกคำสั่งบังคับประชาชนราว 84 ล้านคนที่เป็นลูกจ้างของบริษัทขนาดใหญ่ทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีนหรือทำการตรวจหาการติดเชื้อเป็นประจำ ซึ่ง นพ.เมอร์ธี ชี้ว่า เป็น “การขัดขวางการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข” อย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ นพ.เมอร์ธี ยังคงเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ พิจารณาออกคำสั่งให้พนักงานของตนทำการดังกล่าวด้วยตนเอง หลังมีธุรกิจจำนวนมากเดินหน้ามาตรการสั่งพนักงานฉีดวัคซีนหรือตรวจหาเชื้อเป็นประจำไปแล้ว พร้อมย้ำว่า สิ่งที่สหรัฐฯ เรียนรู้ในช่วงที่ผ่านมาคือ การฉีดวัคซีนนั้นมีผลดีต่อการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้จริง แม้ว่า สถิติจะแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่รับวัคซีนครบโดสแล้วและได้รับวัคซีนบูสเตอร์แล้ว ยังคงมีโอกาสที่จะติดเชื้อโอมิครอนได้ 20% ก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่วันละราว 800,000 คน โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกือบ 2,000 คน
