สหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลกัมพูชาจัดตั้งระบบควบคุมอินเตอร์เน็ตในประเทศ ซึ่งผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายนี้กล่าวว่า เป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสอดส่องและเซ็นเซอร์ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต
จาลินา พอร์เตอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นที่จะส่งเสริมเสรีภาพทางการแสดงออกทางอินเตอร์เน็ต ตามนโยบายที่ดำเนินเสมอมา และตัวเธอเองรู้สึกกังวลเกี่ยวกับมาตรการล่าสุดของกัมพูชาที่อาจมีผลกระทบต่อชาวอเมริกันเชื้อสายกัมพูชาได้
พอร์เตอร์กล่าวว่า มีชาวอเมริกันเชื้อสายกัมพูชาอยู่จำนวนมากในสหรัฐฯ และรัฐบาลต้องการทำให้มั่นใจว่า ทุกคนสามารถติดต่อพูดคุยกับครอบครัว ญาติและเพื่อนที่อยู่ทางบ้านได้ตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ของกัมพูชา ลงนามกฤษฎีกาใหม่เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งบังคับให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทุกรายต้องปรับให้สัญญาณอินเตอร์เน็ตของตนต้องวิ่งผ่าน National Internet Gateway ที่รัฐจัดตั้งขึ้นภายใน 12 เดือน
รัฐบาลกัมพูชาอธิบายว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ และช่วยควบคุมเนื้อหาที่อาจเป็นอันตราย “ต่อความมั่งคงและความสงบเรียบร้อยในสังคมของประเทศ”
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เคยระบุในรายงานประเทศด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี 2019 ว่า ทางการกัมพูชาใช้อำนาจสั่งบริษัทโทรคมนาคมในประเทศให้ปิดกั้นเว็บไซต์ข่าวอิสระต่างๆ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี ค.ศ. 2018
หลังมีผู้ออกมาวิจารณ์นโยบายล่าสุด รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์โต้คำกล่าวหาที่ระบุว่า มาตรการใหม่นี้เป็นเหมือนนโยบายเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีน พร้อมกล่าวว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ เป็น “เรื่องโคมลอย” และ “มีเป้าหมายทางการเมือง”
