สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ยืนยันห้ามไม่ให้พรรคเดโมแครตใช้งบประมาณรัฐมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่วางไว้สำหรับโครงการด้านสังคมและแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ไปใช้ดำเนินนโยบายช่วยผู้อพยพนับล้านคนให้ได้รับสัญชาติอเมริกัน
แหล่งข่าวในรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อลิซาเบธ แมคโดโนห์ สมาชิกรัฐสภาผู้รับหน้าที่แปลกฎวุฒิสภาที่เป็นคนกลาง ประกาศปฏิเสธความประสงค์ของรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านการตรวจคนเข้าเมือง ให้ผู้อพยพสามารถยื่นคำร้องขอใบอนุญาตเป็นผู้พำนักถาวรในสหรัฐฯ หรือแม้แต่กระทั่งขอสัญชาติต่อไปได้
การตัดสินใจของ แมคโดโนห์ ที่มีออกมาในช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ ชี้ว่า ภาษาที่ใช้เกี่ยวกับนโยบายตรวจคนเข้าเมืองนั้นไม่เหมาะสมที่จะนำเข้าไปใส่ไว้ในร่างกฎหมายที่พรรคเดโมแครตตั้งใจจะนำเสนอโดยไม่ผ่านกระบวนการ filibuster หรือการอภิปรายถ่วงเวลาเพื่อขวางการลงมติในร่างกฎหมาย ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยมักเลือกใช้ได้
รายงานข่าวระบุว่า พรรคเดโมแครตพยายามร่างกฎหมายดังกล่าว โดยใช้ภาษาที่จะเปิดโอกาสให้ผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายพร้อมกับครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่ยังเด็ก หรือ Dreamers และผู้อพยพที่มีสถานภาพได้รับการคุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากต้องหลบหนีภัยพิบัติหรือเหตุรุนแรงต่างๆ หรือเป็นแรงงานในส่วนงานที่มีความจำเป็น และคนงานในภาคการเกษตร มีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอสัญชาติอเมริกัน แต่ความพยายามดังกล่าวต้องประสบความล้มเหลว หลัง แมคโดโนห์ พิจารณาเนื้อหาและเปรียบเทียบกับกฎของรัฐสภาแล้ว
ทั้งนี้ สมาชิกพรรคเดโมแครตเปิดเผยว่า ทางตนและพันธมิตรที่สนับสนุนการยกเครื่องนโยบายตรวจคนเข้าเมืองนี้จะพยายามเสนอทางเลือกอื่นให้ แมคโดโนห์ พิจารณาอีก เพื่อเปิดทางให้ผู้อพยพบางส่วนสามารถยื่นเรื่องของสถานะผู้พำนักและมีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายได้
