สหรัฐฯ ประกาศในวันพุธว่า จะกลับมาเปิดพรมแดนกับแคนาดาและเม็กซิโกอีกครั้ง โดยจะเริ่มเปิดพรมแดนในเดือนหน้าสำหรับผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว
พรมแดนของสหรัฐฯ กับทั้งสองประเทศถูกปิดไม่ให้รถยนต์ รถไฟ และเรือแล่นข้ามฝั่งได้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยยกเว้นให้เพียงแต่การคมนาคมที่จำเป็น เช่น การขนส่งสินค้า
การยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางตามชายแดนนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบเดินทางโดยเครื่องบินเข้าสหรัฐฯ ได้ในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกำหนดว่ากฎใหม่เหล่านี้จะประกาศใช้เมื่อไร
เจ้าหน้าที่ที่ไม่ประสงค์จะออกนามระบุว่า ผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ยังคงจะเผชิญกับคำสั่ง “ไตเติ้ล 42” (Title 42) ซึ่งเป็นคำสั่งที่ออกในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนักสิทธิผู้อพยพระบุว่า คำสั่งดังกล่าวทำให้ผู้อพยพเดินทางข้ามชายแดนเพื่อขอลี้ภัยไม่ได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันเผชิญกับแรงกดดันจากสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ รวมถึงจากรัฐบาลแคนาดาและเม็กซิโก ให้ยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว เนื่องจากเป็นการตัดขาดครอบครัวและทำให้สหรัฐฯ สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวหลายพันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ยังเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันพฤหัสบดีนี้ หลังปิดเกาะไปกว่าหนึ่งปีเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เดินทางไปยังเกาะบาหลี ต้องแสดงหลักฐานว่าฉีดวัคซีนมาครบแล้ว เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสเมื่อเดินทางมาถึง และต้องกักตัวในโรงแรมอย่างน้อยห้าวัน