กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ (Department of Homeland Security - DHS) ประกาศขยายเวลาปิดพรมแดนสำหรับการเดินทางที่ไม่จำเป็น ทั้งด้านเหนือติดกับแคนาดา และด้านใต้ติดกับเม็กซิโก ไปอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม
มาตรการล่าสุดของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่แคนาดาเพิ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะอนุญาตให้ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางเข้าแคนาดาได้ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดมาตรการห้ามผ่านแดนหากไม่จำเป็น ที่ใช้มาตั้งแต่ 16 เดือนที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ อนุญาตให้ชาวแคนาดาที่มีผลตรวจโควิดเป็นลบสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ แต่แคนาดายังไม่อนุญาตชาวอเมริกันที่มีผลตรวจเป็นลบเข้าประเทศ
เวลานี้ สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตา ในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขเกิดความกังวลว่ากำลังเกิดการระบาดระลอกใหม่
กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ กล่าวว่า ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่แคนาดากับเม็กซิโกเพื่อแจ้งให้ทราบแล้วว่า ข้อจำกัดใดบ้างที่จะมีการผ่อนคลายได้อย่างปลอดภัยภายใต้สถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างประเทศ กับแคนาดา เม็กซิโก อังกฤษ และสหภาพยุโรป เพื่อศึกษาว่าควรเปิดประเทศและยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างกันเมื่อใด