เหตุประท้วงในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ เดินหน้าต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 7 ขณะที่เหตุรุนแรงระหว่างการชุมนุมในหลายจุดยังคงเกิดขึ้นในช่วงค่ำของการประท้วง และมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ
ผู้ประท้วงในหลายเมืองกลับเข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้งในวันจันทร์ หลังรัฐบาลรัฐต่างๆ ประกาศใช้คำสั่งเคอร์ฟิวห้ามการชุมนุมบนถนนหลังพลบค่ำในพื้นที่เกือบ 40 เมืองทั่วสหรัฐฯ ไปแล้ว เช่น นครลอสแอนเจลิส นครชิคาโก เมืองไมอามี เมืองดีทรอยต์ และเมืองฟิลาเดลเฟีย ขณะที่ผู้ว่าการเท็กซัส และเวอร์จิเนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วรัฐไปแล้วเช่นกัน
สถานการณ์ในพื้นที่ชุมนุมทั่วสหรัฐฯ ในช่วงกลางวันเริ่มต้นด้วยการประท้วงอย่างสันติ ก่อนที่จะเริ่มรุนแรงขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน ทำให้เกิดภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือโล่และพลองพยายามผลักดันผู้ประท้วงให้ถอยออกจากพื้นที่การชุมนุม และการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนจุดไฟเผาและทำลายหน้าร้านค้าต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุมในหลายเมือง
นับตั้งแต่ภาวการณ์ชุมนุมยกระดับความรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่แนชันแนลการ์ดหลายพันนายได้ถูกส่งเข้าพื้นที่ในกว่า 15 รัฐ ซึ่งรวมถึงกรุงวอชิงตันเพื่อทำงานร่วมกับตำรวจในพื้นที่เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์การประท้วงที่เริ่มขึ้นจากความโกรธแค้นต่อการเสียชีวิตของนาย จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวแอฟริกันอเมริกัน ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เขาถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวประจำเมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 4,400 คน นับตั้งแต่การประท้วงปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงหลายพันคนยังคงเดินขบวนอย่างสงบในหลายเมือง ทั้งเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ และขอให้ยุติการปล้นร้านค้า การเผาและทำลายทรัพย์สิน โดยบอกว่าเป็นการทำลายความพยายามเรียกร้องความยุติธรรมและการปฏิรูปที่แท้จริง
และสำนักข่าว Associated Press รายงานในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทนายความของครอบครัวของ จอร์จ ฟลอยด์ เปิดเผยรายงานผลการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่ทางครอบครัวเป็นผู้ร้องขอและให้อำนาจทำการ ซึ่งระบุว่า ฟลอยด์ เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากถูกกดทับที่บริเวณคอและหลัง
ทั้งนี้ ผลการพิสูจน์ศพล่าสุดนี้ แตกต่างจากรายงานสรุปสาเหตุที่เป็นทางการเกี่ยวกับเสียชีวิตของ ฟลอยด์ ที่ใช้ประกอบคำฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการจับกุมก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า เกิดจากการถูกพันธนาการ และปัญหาสุขภาพที่มีอยู่ รวมทั้งการที่อาจมีสารมึนเมาอยู่ภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต และยังมีการรายงานว่าไม่พบปัจจัยที่ “สนับสนุนการวินิจฉัยเกี่ยวกับการขาดอากาศหรือถูกพันธนาการ” แต่อย่างใด