สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ เสนอให้เปลี่ยนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนอเมริกาเป็นแบบปีละครั้ง คล้ายกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ในเอกสารที่โพสต์ออนไลน์ เอฟดีเอ ระบุว่า วิธีการใหม่นี้จะช่วยให้การฉีดวัคซีนโควิดทำได้ง่ายขึ้น โดยจะมีการหารือแผนการใหม่นี้ที่การประชุมนักวิทยาศาสตร์และคณะผู้เชี่ยวชาญของเอฟดีเอในสัปดาห์นี้
ภายใต้ระบบปัจจุบัน ชาวอเมริกันได้รับคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดแบบสองโดสเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่เริ่มระบาดเมื่อปี 2020 และวัคซีนบูสเตอร์อีกสองเข็มในเวลาต่อมา ซึ่งเข็มล่าสุดนั้นใช้ป้องกันทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอน
อย่างไรก็ตาม เอฟดีเอชี้ว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการวัคซีนโควิดเพียงปีละครั้งเพื่อปกป้องเชื้อโคโรนาไวรัส แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงผู้สูงอายุ เด็กเล็กและผู้ที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันโรค อาจต้องรับวัคซีนแบบสองโดสเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่ม
ทั้งผู้ผลิตวัคซีนและผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งเป้าหมายพัฒนาวัคซีนโควิดแบบเข็มเดียวที่สามารถป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสหลายสายพันธุ์ที่มักระบาดในช่วงฤดูหนาว โดยอาจมีการปรับสูตรให้เหมาะสมในแต่ละปี
นอกจากนี้ เอฟดีเอกำลังพิจารณาให้วัคซีนของแต่ละบริษัทสามารถใช้สลับกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่า แต่ละคนได้ฉีดวัคซีนของบริษัทไหนไปบ้างแล้ว เป้าหมายเพื่อให้ง่ายต่อการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดในอนาคต
ปัจจุบัน มีประชากรอเมริกันมากกว่า 80% ที่รับวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม แต่มีเพียง 16% เท่านั้นที่ฉีดเข็มบูสเตอร์เข็มสุดท้ายซึ่งเป็นเข็มที่ 4 อ้างอิงจากรายงานของเอพี
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพีและรอยเตอร์