ชาวจีนจำนวนมากพากันไปเข้าแถวรอที่หน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในกรุงปักกิ่งในวันจันทร์ เพื่อรอต่ออายุหนังสือเดินทางของตน หลังทางการยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ตามพรมแดนที่ทำให้ประชากรราว 1,400 ล้านคนของประเทศไม่สามารถออกนอกประเทศมาเป็นเวลา 3 ปี ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ของจีนครั้งนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นและค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นทันทีในวันจันทร์ โดยดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นหุ้นบลูชิพ (blue chip) หรือหุ้นของบริษัทรายใหญ่ของจีนปิดเพิ่ม 0.8% ดัชนีดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต (Shanghai Composite Index) เพิ่มขึ้น 0.58% และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงปิดบวก 1.89% ขณะที่ นักลงทุนเก็งกันว่า การเปิดประเทศครั้งนี้น่าจะช่วยปลุกชีพเศรษฐกิจมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์ที่ประสบภาวะการเติบโตชะลอตัวหนักที่สุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษอยู่ได้ไม่น้อย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า การที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งสั่งยกเลิกมาตรการต่าง ๆ ที่มีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการกักตัวเฝ้าระวังอาการสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศน่าจะส่งผลให้ตัวเลขผู้เดินทางออกนอกประเทศพุ่งสูงอย่างมาก เนื่องจากผู้ที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะไม่ต้องทำตามกฎคุมเข้มใด ๆ บังคับใช้มาตลอดช่วงที่ผ่านมาอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี พัฒนาการเชิงบวกที่ว่านี้ไม่ได้เดินหน้าได้อย่างราบรื่นเสียทีเดียว เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการในจีนนั้นยังมีไม่มากเท่าใด ขณะที่ หลายประเทศบังคับให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องแสดงผลการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ และรัฐบาลจีนเองก็บังคับให้ผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศต้องแสดงผลการตรวจที่เป็นลบเช่นกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจีนและสื่อทางการต่าง ๆ ต่างเปิดเผยมาตลอดว่า อัตราการติดเชื้อโควิด-19 นั้นพุ่งแตะระดับสูงสุดทั่วจีนอยู่ พร้อม ๆ กับพยายามยืนยันว่า ภัยจากโควิด-19 นั้นไม่ได้รุนแรงอีกต่อไปแล้ว
ข้อมูลอย่างเป็นทางการของจีนระบุว่า ณ วันที่ 8 มกราคมนั้น ตัวเลขสะสมของผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 นั้นอยู่ที่ 5,272 คน ซึ่งทำให้จีนเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
แต่องค์การอนามันโลกกล่าวว่า จีนนั้นรายงานตัวเลขการระบาดต่ำกว่าความเป็นจริงและผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสจากนานาประเทศประเมินว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตในจีนเนื่องจากโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนในปีนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
