รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ของ 'แอสตราเซเนกา' 4 ล้านโดส ให้ประเทศเม็กซิโก และแคนาดา ในลักษณะยืม เพื่อช่วยประเทศเพื่อนบ้านควบคุมการระบาดของโควิด-19
โฆษกประจำทำเนียบขาว เจน ซากี กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา จำนวน 4 ล้านโดส ให้กับประเทศเม็กซิโก และแคนาดา
The Wall Street Journal รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังศึกษาและประเมินดูว่าจะจัดส่งวัคซีนให้ทั้งสองประเทศในลักษณะการให้ยืมวัคซีน และคาดหวังว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองจะส่งวัคซีนคืนสหรัฐฯ ในอนาคต โดยจะส่งให้เม็กซิโกจำนวน 2.5 ล้านโดส และให้แคนาดา 1.5 ล้านโดส
แผนการดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด ด้าน NBC News รายงานว่าทำเนียบขาวยืนยันว่าการส่งวัคซีนให้เม็กซิโก และแคนาดาจะไม่กระทบกับเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะจัดหาวัคซีนให้เพียงพอต่อชาวอเมริกันทุกคนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โฆษกทำเนียบขาวยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนชาวอเมริกันก่อน แต่ในสภาพความเป็นจริง การระบาดของโควิด-19 ไม่รู้จักคำว่าพรมแดน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องช่วยประเทศเพื่อนบ้านควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
แผนแบ่งวัคซีนดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่สำนักงานยาแห่งสหภาพยุโรปลงมติว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา “ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” และไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดแข็งตัวแต่อย่างใด ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้ระงับการแจกจ่ายวัคซีนของแอสตราเซเนกาอันเนื่องมาจากความกังวลดังกล่าว
วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนที่ใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในสหรัฐฯ แต่อย่างใด
ประธานาธิบดีของเม็กซิโก นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ได้ขอความช่วยเหลือมายังสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันสหรัฐฯ และเม็กซิโก กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อควบคุมการไหลทะลักเข้ามาของผู้อพยพเข้าเมืองในบริเวณพื้นที่ชายแดนรอยต่อระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีทั้งเด็กเยาวชนที่เดินทางมาคนเดียว หรือผู้ที่เดินทางมาเป็นครอบครัวเพื่อหลบหนีจากความยากจนและความรุนแรงในอเมริกากลาง
ด้าน เจน ซากี โฆษกประจำทำเนียบขาวกล่าวว่าการส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ให้เม็กซิโกไม่เกี่ยวกับการเจรจาเรื่องชายแดนแต่อย่างใด
ที่ผ่านมามีแรงกดดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ แบ่งปันวัคซีนให้กับชาติอื่น ๆ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนงบประมาณ 4 พันล้านดอลล่าร์ให้กับโครงการโคแว็กซ์ (Covax) ซึ่งเป็นโครงการระหว่างประเทศเพื่อแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ให้อย่างน้อยร้อยละ 20 ของประชากรใน 92 ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายภายในสิ้นปีนี้
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ “พร้อมจะแจกจ่าย” อยู่ 7 ล้านโดส รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับคำขอสนับสนุนวัคซีนจากประเทศอื่นเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตกลงที่จะช่วยเหลือประเทศเหล่านั้น
เม็กซิโกเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 195,000 คน แต่มีประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่ถึงร้อยละ 4
ส่วนในแคนาดา นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ถูกวิพากษ์วิจารณ์การแจกจ่ายวัคซีนของรัฐบาลที่เป็นไปอย่างสะเปะสะปะไร้ทิศทาง ถึงแม้ว่าแคนาดาจะอนุมัติให้มีการใช้วัคซีนถึง 4 ยี่ห้อแล้วก็ตาม ทำให้มีประชาชนจำนวนน้อยที่ได้รับวัคซีนเมื่อเทียบกับ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศในทวีปยุโรป