สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันพุธ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ประโยชน์ของวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ร่วมพัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ยังถือว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และแนะนำให้เดินหน้าฉีดวัคซีนดังกล่าวต่อไป
เมื่อเดือนที่แล้ว ทาง WHO อนุมัติให้ใช้วัคซีนสูตรดังกล่าวได้เป็นการฉุกเฉิน ทำให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเข้าถึงวัคซีนนี้ ที่มีราคาถูกกว่าวัคซีนอื่น ๆ ในท้องตลาด
อย่างไรก็ตาม ประเทศยุโรปหลายประเทศระงับการให้วัคซีนสูตรนี้แก่ประชาชนชั่วคราว หลังมีข้อกังวลด้านสุขภาพ
สำนักงานยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ EMA ระบุว่า กำลังสืบสวนกรณีผู้รับวัคซีนมีอาการลิ่มเลือดผิดปกติ 30 กรณี จากผู้รับวัคซีน 5 ล้านคน โดยมีการฉีดวัคซีนต้านโควิดในยุโรปไปแล้ว 45 ล้านโดส และทาง EMA จะเผยแพร่ผลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้
ทาง WHO ระบุว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยของวัคซีนระดับโลกกำลังประเมินข้อมูลความปลอดภัยล่าสุดของวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาอย่างระมัดระวัง และทาง WHO จะเผยแพร่ผลต่อสาธารณะทันทีหลังเสร็จสิ้นการประเมิน
ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ฉุกเฉินของ WHO ระบุว่า ทาง WHO แนะนำให้ประชาชนรับวัคซีนสูตรดังกล่าวต่อไป เนื่องจากความเสี่ยงที่เชื้อโคโรนาไวรัสจะเป็นอันตรายต่อร่างกายมีมากกว่าความเสี่ยงที่ได้รับจากวัคซีนที่อยู่ในระดับต่ำกว่ามาก และประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จนกว่าจะมั่นใจแน่นอนว่าวัคซีนดังกล่าวมีปัญหาจริง
เคท โอไบรอัน ผู้อำนวยการแผนกภูมิคุ้มกันของ WHO ระบุว่า ทางคณะกรรมการกำลังประเมินว่า การก่อตัวของลิ่มเลือดมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัคซีนนี้จริงหรือไม่ โดยเธอระบุว่า ยังไม่ควรตีความจำนวนผู้มีอาการลิ่มเลือดมากจนเกินเหตุ โดยวัคซีนสูตรนี้ยังเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยชีวิตผู้คนได้ ปลอดภัย และควรมีการแจกจ่ายวัคซีนนี้ต่อไป