อัตราการติดเชื้อโคโรนาไวรัสในหมู่เจ้าหน้าที่ของกองทัพสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้ารับวัคซีนก่อนเส้นตายปลายปีนี้
จำนวนผู้ติดเชื้อในกองทัพสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับส 4,900 คนเมื่อต้นเดือนกันยายน ก่อนที่จะลดลงมาเหลือ 863 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือน ตามข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดทำบันทึกที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ทุกคนต้องเข้ารับวัคซีนโควิดไม่เช่นนั้นอาจถูกลงโทษ โดยให้แต่ละกองทัพกำหนดเส้นตายของตัวเอง
ทั้งนี้ ระหว่างเดือนสิงหาคม มีเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เสียชีวิตจากโควิดเกือบเท่ากับจำนวนที่เสียชีวิตทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่เดือนกันยายนมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นกว่าเดือนสิงหาคม โดยผู้เสียชีวิตทุกคนไม่มีใครได้รับวัคซีนโควิดครบโดสเลย ตามข้อมูลของเพนตากอน
จากข้อมูล ณ วันพุธ เจ้าหน้าที่กองทัพบกสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส 91%, กองทัพเรือ 99%, กองทัพอากาศและกองทัพอวกาศ 96% และนาวิกโยธิน 91%
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันเผยว่า ในวันศุกร์นี้เพนตากอนจะเปิดเผยแผนซึ่งกำหนดให้ลูกจ้างพลเรือนทั้ง 765,000 คนต้องฉีดวัคซีนเช่นกัน
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศใช้มาตรการกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกันทุกคนต้องฉีดวัคซีนครบโดสภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับกำหนดเส้นตายของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วย
แรงต้านจากผู้นำศาสนาในกองทัพ
ในขณะที่กำหนดเส้นตายดังกล่าวกำลังใกล้เข้ามา อาร์คบิชอพ หรือ หัวหน้าบาทหลวงของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวว่า ทหารที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาธอลิกควรสามารถปฏิเสธการฉีดวัคซีนได้ตามความเชื่อของพวกเขา
อาร์คบิชอพ ทิมโมธี พี บรอกลิโอ มีแถลงการณ์ว่า "ไม่ควรมีใครถูกบังคับให้ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 หากนั่นเป็นสิ่งที่ขัดกับมโนธรรมของพวกเขา"
ก่อนหน้านี้ อาร์คบิชอพผู้นี้สนับสนุนนโยบายของประธานาธิบดีไบเดนที่ให้เจ้าหน้าที่ของกองทัพทุกคนต้องเข้ารับวัคซีน รวมทั้งยังสนับสนุนให้ทหารทุกคนฉีดวัคซีนด้วย แต่ก็ออกมากล่าวภายหลังว่า คำอนุญาตของโบสถ์คาธอลิกให้สมาชิกสามารถฉีดวัคซีนได้นั้นควรอยู่บนพื้นฐานด้านมโนธรรม และไม่ควรละเมิดต่อความเชื่อทางศาสนาของบุคคลคนนั้น
ปัจจุบัน เพนตากอนกำหนดให้ผู้ที่จะทำงานในกองทัพต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 9 ชนิด คือ วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอและบี, ไข้หวัดใหญ่, โรคหัด, โปลิโอ, บาดทะยัก, คอตีบ, ไอกรน และอีสุกอีใส