อัตราอายุเฉลี่ย หรืออายุขัยของคนในสหรัฐฯ สูงขึ้นเป็นเวลาเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา แต่การศึกษาครั้งใหม่ยืนยันว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้
การศึกษาพบว่าอัตราอายุเฉลี่ยของคนในสหรัฐฯ ลดลงเป็นเวลาสามปีติดต่อกันหลังจากปี พ.ศ. 2557 ซึ่งสาเหตุหลักดูเหมือนว่าจะเป็นอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้นในหมู่ชาวอเมริกันวัยกลางคน
ในรายงานระบุว่า อัตราการเสียชีวิตในหมู่ชาวอเมริกันวัยทำงานไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตามเพิ่มขึ้นในระหว่างปีพ.ศ. 2553 จนถึงปีพ.ศ. 2560 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาด การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิด ๆ การฆ่าตัวตาย และการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน
นายแพทย์ Steven Woolf ผู้อำนวยการกิตติคุณที่ศูนย์สังคมและสุขภาพที่มหาวิทยาลัย Virginia Commonwealth ซึ่งช่วยจัดทำรายงานฉบับนี้ กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตของคนอเมริกันวัยทำงานเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตฉุกเฉิน และเป็นปัญหาเฉพาะของชาวอเมริกัน เพราะไม่พบเห็นปัญหานี้ในประเทศอื่น
อัตราการเสียชีวิตของคนวัยกลางคนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อบางพื้นที่ของประเทศมากกว่าที่อื่น ๆ โดยอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ทางตอนเหนือของ แถบ New England และ Ohio Valley
นายแพทย์ Woolf กล่าวต่อไปว่า ความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และความสิ้นหวังที่เกิดขึ้น ความท้อแท้ อาจเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นการยากที่จะกล่าวโทษความสิ้นหวังโดยตรง แต่สภาพความเป็นอยู่ที่ทำให้เกิดความสิ้นหวังก็ทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ตัวอย่างเช่น หากคุณอาศัยอยู่ในชุมชนที่มีรายได้ต่ำและหางานทำได้ยาก ก็อาจทำให้เกิดความเครียดเรื้อรังซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ประเทศอื่น ๆ ที่มีรายได้สูงกลับไม่มีปัญหาในเรื่องอัตราการเสียชีวิตของคนวัยกลางคนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะในประเทศเหล่านั้นมีระบบที่สนับสนุนผู้ที่ตกอยู่ในสภาพการณ์ที่ลำบาก ส่วนในสหรัฐฯ ทุกคนจะต้องผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเอง
ข้อมูลจากการศึกษานี้มาจากศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติ และฐานข้อมูลการเสียชีวิตของคนในสหรัฐฯ ในช่วงปีพ.ศ. 2502 ถึงพ.ศ. 2560 นอกจากนี้นักวิจัยยังได้ตรวจสอบเอกสารทางการแพทย์สำหรับการศึกษาอายุเฉลี่ยและอัตราการเสียชีวิตของคนในสหรัฐฯ อีกด้วย
ศาสตราจารย์ John Rowe จากมหาวิทยาลัย Columbia นครนิวยอร์ค กล่าวว่า การค้นพบครั้งใหม่นี้ได้แสดงหลักฐานของแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเท่าไหร่นัก เขากล่าวถึงปัญหาเรื่องการใช้ยาโอปิออยด์ในสหรัฐฯ โดยระบุว่าชาวอเมริกัน 250,000 คนใช้ยาเกินขนาดและเสียชีวิตหลังจากที่ทานยา
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผิดปกติก็คืออายุขัยที่ลดลงนั้นไม่เหมือนกันในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตนั้นเพิ่มขึ้นเฉพาะในวัยกลางคน ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องในหมู่เด็ก วัยรุ่น และผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
รายงานการศึกษาเรื่องนี้ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน JAMA
