เจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการทูตของสหรัฐฯ เดวิด เฮล (David Hale) กล่าวที่กรุงเบรุตในวันพฤหัสบดีว่า สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปเข้าร่วมกับเลบานอนและคณะเจ้าหน้าที่จากหลายชาติ ในการสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 170 คน บาดเจ็บอีกหลายพันคน
รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการการเมือง เดวิด เฮล เดินทางเยี่ยมเยือนพื้นที่ที่เกิดความเสียหายอย่างหนักจากแรงระเบิด และกล่าวว่า เอฟบีไอจะเข้าช่วยในการสืบสวนเหตุการณ์นี้ตามคำเชิญของรัฐบาลเลบานอน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่สหรัฐฯ จะสามารถช่วยเหลือเลบานอนได้
รองรัฐมนตรีเฮล จะพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเลบานอนในช่วงสองวันข้างหน้า โดยจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการปฏิรูปทางการเมืองในเลบานอน
ในวันพฤหัสบดี รัฐสภาเลบานอนจัดประชุมเป็นครั้งแรกหลังเหตุระเบิดใหญ่ ขณะที่กำลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลาสองสัปดาห์สืบเนื่องจากการระเบิดและการประท้วงของประชาชนในกรุงเบรุต โดยประธานรัฐสภาเลบานอน นาบีห์ เบอร์รี เรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอับ ประกาศยืนยันการลาออกพร้อมคณะรัฐมนตรีผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่เมื่อใด โดยรัฐสภาเลบานอนรับรองการลาออกดังกล่าว
เหตุระเบิดที่กรุงเบรุตนี้ เชื่อกันว่ามีสาเหตุมาจากไฟที่ปะทุที่คลังสินค้าจัดเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรท จำนวน 2,750 ตัน ซึ่งอยู่ที่คลังสินค้าที่เกิดเหตุมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013
มีการประเมินว่า ความเสียหายจากเหตุการณ์นี้น่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะทำให้มูลค่าผลผลิตมวลรวมของประเทศหายไปราว 25%