ฝ่ายนิติบัญญัติในรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายห้ามนักกีฬาข้ามเพศเข้าร่วมทีมนักกีฬาหญิงที่มีการเข้าแข่งขันเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่ร่างกฎหมายที่คล้ายกันนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในสภานิติบัญญัติมากกว่า 20 แห่งทั่วสหรัฐฯ
บรรดาผู้สนับสนุนร่างกฎหมายนี้กล่าวว่า สาวข้ามเพศมีความแข็งแกร่งและรวดเร็วกว่าตามธรรมชาติ เพราะพื้นฐานทางชีวภาพของคนเหล่านั้นคือผู้ชายซึ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบคู่แข่งขันที่เกิดมาเป็นหญิงแท้อย่างไม่ยุติธรรม
American Civil Liberties Union (ACLU) องค์กรที่สนับสนุนและปกป้องสิทธิส่วนบุคคล เรียกร่างกฎหมายดังกล่าวว่า "เป็นการโจมตีนักศึกษาที่เป็นนักกีฬาข้ามเพศ" และว่าร่างกฎหมายนั้นเลือกปฏิบัติต่อเยาวชนข้ามเพศในลักษณะที่ส่งผลต่อสุขภาพและ พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ รวมทั้งความปลอดภัย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยพรรครีพับลิกัน ซึ่งอาจขัดต่อกฎหมายการศึกษาของรัฐบาลกลางที่จำกัดการเลือกปฏิบัติทางเพศและต่อคำตัดสินของศาลสูงในประเด็นนี้ นอกจากนี้คำสั่งของผู้บริหารที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ยังห้ามการเลือกปฏิบัติตามอัตลักษณ์ทางเพศในกีฬาของโรงเรียนและที่อื่นๆ ด้วย
ปัจจุบัน มี 19 รัฐในอเมริกาที่อนุญาตให้นักกีฬาข้ามเพศเข้าร่วมการแข่งขันในทีมกีฬาหญิงได้ ส่วนอีก 16 รัฐยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ขณะที่ 7 รัฐระบุให้หญิงข้ามเพศต้องได้รับฮอร์โมนเพศหญิง และมี 8 รัฐที่ห้ามหญิงข้ามเพศเข้าร่วมทีมนักกีฬาหญิงเด็ดขาด โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากศูนย์ป้องกันสิทธิหญิงรักร่วมเพศแห่งชาติ
อย่างไรก็ดี ในระดับชาติ ยังไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการว่ามีนักกีฬาข้ามเพศกี่คนที่เข้าแข่งขันกีฬาระดับมัธยมหรือระดับมหาวิทยาลัย เนื่องจากสมาคมกีฬาระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าว ส่วนรัฐที่มีการรวบรวมข้อมูลนั้น จำนวนนักกีฬาข้ามเพศก็มีอยู่เพียงไม่กี่คน เช่น ที่รัฐแคนซัส มีนักเรียนที่เป็นนักกีฬาข้ามเพศไม่เกิน 5 คน และที่รัฐโอไฮโอมีอยู่เพียง 9 คนในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ถูกจัดว่าเป็นคนข้ามเพศ มีอัตราส่วนเพียงเล็กน้อยของประชากรทั้งหมด คือประมาณ 0.4% หรือ 1.3 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อปีค.ศ. 2016 โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากสถาบัน Williams Institute at the UCLA School of Law ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยเกี่ยวกับปัญหา LGBTQ
ที่รัฐคอนเนตทิคัต ศาลกำลังพิจารณาความพยายามทางกฎหมายจาก Alliance Defending Freedom (ADF) ที่ไม่ต้องการให้คนข้ามเพศมีส่วนร่วมในกีฬาของผู้หญิง โดยมุ่งประเด็นไปที่นักวิ่งระยะสั้นที่เป็นสาวข้ามเพศสองคน ได้แก่ Terry Miller และ Andraya Yearwood ซึ่งมักจะทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งของพวกเธอที่เป็นหญิงแท้
Christiana Holcomb ทนายความของ ADF ซึ่งยื่นฟ้องในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 กล่าวว่า เมื่อกฎหมายไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างหญิงชาย ผู้หญิงก็มักจะแพ้การแข่งขันอยู่เสมอ
ADF และกลุ่มต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน กำลังช่วยรณรงค์ในเรื่องนี้พร้อมทั้งยกสองตัวอย่างของการร้องเรียนที่เกี่ยวกับนักกีฬาข้ามเพศระดับมัธยมต้นหรือมัธยมปลาย ตัวอย่างแรก คือ การที่โค้ชหญิงชาวฮาวายร้องเรียนเมื่อปีที่แล้วเรื่องสาวประเภทสองที่เข้าแข่งขันกีฬาหญิง และอีกตัวอย่างหนึ่ง คือ การที่นักกีฬาหญิงแท้ในรัฐอะแลสก้าร้องเรียนว่า การที่สาวข้ามเพศคว้าอันดับสามในการแข่งขันวิ่งไปได้นั้นไม่ยุติธรรมกับนักวิ่งคนอื่น
ขณะที่บรรดากลุ่มต่อต้านการร่วมแข่งขันกีฬาของคนข้ามเพศที่มีเพิ่มมากขึ้น กล่าวว่าจำเป็นต้องมีกฎหมายใหม่เพื่อให้วงการกีฬามีความยุติธรรมสำหรับเด็กสาวที่เป็นหญิงแท้ หรือตามเพศสภาพที่ปรากฏตอนแรกเกิด
ในทางกลับกัน ที่รัฐยูทาห์ เด็กหญิงข้ามเพศวัย 12 ปีผู้หนึ่งร้องไห้เมื่อเธอได้รับรู้เกี่ยวกับร่างกฎหมายซึ่งอาจจะแยกเธอออกจากเพื่อน ๆ ในทีมนักกีฬาหญิง โดยโค้ชของเด็กคนนี้กล่าวว่า เธอสูงน้อยกว่าเด็กผู้หญิงบางคนในทีมว่ายน้ำและพยายามฝึกฝนอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่เธอก็ไม่ใช่นักว่ายน้ำที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนักกีฬาที่อายุเท่ากัน แม้เธอจะเป็นสตรีข้ามเพศก็ตาม
เด็กหญิงผู้นี้และครอบครัวของเธอกล่าวกับสำนักข่าว The Associated Press โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อว่า นอกจากร่างกายของเธอที่เป็นชายแล้ว ทั้งจิตใจ พฤติกรรม และความเป็นอยู่ของเธอ เป็นผู้หญิงมาทั้งชีวิต
