ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ - อิรัก ตึงเครียด! หลังเหตุจรวดโจมตีสถานทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด


Security forces inspect the scene of a rocket attack at the gate of al-Zawra public park in Baghdad, Iraq, Nov. 18, 2020. Rockets struck Iraq's capital on Tuesday with four landing inside its heavily fortified Green Zone.
Security forces inspect the scene of a rocket attack at the gate of al-Zawra public park in Baghdad, Iraq, Nov. 18, 2020. Rockets struck Iraq's capital on Tuesday with four landing inside its heavily fortified Green Zone.

เกิดเหตุจรวดโจมตีบริเวณเขตอาคารสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด ในช่วงข้ามคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตเพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับอิรัก หลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งจะประกาศถอนทหารอเมริกันอีก 500 นายออกจากอิรัก

สื่อของอิรักรายงานว่า จรวดจำนวน 7 ลูกที่ยิงมาจากกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน ตกลงในเขตปลอดภัยสูงสุด หรือ กรีนโซน ในกรุงแบกแดด โดยเชื่อว่ามีเป้าหมายโจมตีอาคารสถานทูตสหรัฐฯ

ไม่มีรายงานเจ้าหน้าที่อเมริกันได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ทหารอิรักระบุว่ามีเด็กเสียชีวิตหนึ่งคน และชาวบ้านในบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บ 5 คนจากการโจมตีดังกล่าว

ด้านกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน ประกาศว่าการโจมตีนี้เป็นการตอบโต้ที่ทหารอเมริกันจับกุมสมาชิกสามคนของกลุ่มที่เมืองฟัลลูจา ทางตะวันตกของกรุงแบกแดด เมื่อไม่นานนี้

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอิรัก มุสตาฟา คาดีมี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ มีแผนจะถอนทหาร 500 คนออกจากอิรักในเร็ววันนี้ และระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับปากกับตนไว้ว่าจะถอนทหารออกจากอิรักภายใน 1 ปี

เมื่อวันอังคาร คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ภายในวันที่ 15 มกราคมปีหน้า กองทัพสหรัฐฯ จะลดจำนวนกองกำลังในอิรักอีก 500 นาย จากที่ปัจจุบันมีทหารอเมริกันประจำการในอิรักราว 3,000 นาย ภายใต้ผลประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์เพื่อให้มั่นใจว่า กลุ่มอย่าง al-Qaida และ ISIS จะไม่สามารถเข้าพื้นที่ดังกล่าวโจมตีสหรัฐฯ ได้

และเมื่อต้นสัปดาห์ สื่อนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ เคยพิจารณาว่าจะโจมตีสถานที่เสริมคุณภาพนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่คณะที่ปรึกษาได้ทักท้วงเอาไว้

XS
SM
MD
LG