ข้อมูลจากหน่วยงานคณะกรรมการเลือกตั้งของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ Federal Election Commission แสดงว่า ณ วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีเงินทุนเพื่อการหาเสียงเลือกตั้งเหลืออยู่ในมือมากกว่าของประธานาธิบดีทรัมป์ถึงเกือบสองเท่าตัว คือมีอยู่ 177 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 63 ล้านดอลลาร์ที่ฝ่ายหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์มีอยู่
และโดยภาพรวมแล้ว อดีตรองประธานาธิบดีไบเดน ของพรรคเดโมแครต สามารถหาเงินบริจาคได้รวมกันถึง 809 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามากกว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดเคยทำได้ในอดีต
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์นั้นหาเงินบริจาคโดยรวมได้เพียง 552 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ Center for Responsive Policies
อย่างไรก็ตาม การมีเงินทุนมากไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะชนะเลือกตั้งเสมอไป เพราะเมื่อปี ค.ศ. 2016 นางฮิลลารี คลินตัน เคยหาทุนและใช้เงินมากกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี
สำหรับภาพรวมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการหาเสียงเลือกตั้งในระดับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ คือทั้งตำแหน่งประธานาธิบดีและสมาชิกสภาคองเกรสในปีนี้ คาดว่ายอดเงินใช้จ่ายโดยรวมสำหรับทุกตำแหน่งจะสูงถึง 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าเป็นการใช้จ่ายเงินเพื่อหาเสียงเลือกตั้งมากกว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วถึงกว่า 50% หลังจากปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว