ลิ้งค์เชื่อมต่อ

 
รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ย้ำ “เป็นไปไม่ได้จริง” ที่ยูเครนจะกลับไปเป็นเหมือนก่อนปี 2014

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ย้ำ “เป็นไปไม่ได้จริง” ที่ยูเครนจะกลับไปเป็นเหมือนก่อนปี 2014


รมว.กลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ขึ้นพูดในการประชุมกลุ่ม Ukraine Defense Contact ที่ที่ทำการใหญ่องค์การนาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมื่อ 12 ก.พ. 2568
รมว.กลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ขึ้นพูดในการประชุมกลุ่ม Ukraine Defense Contact ที่ที่ทำการใหญ่องค์การนาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมื่อ 12 ก.พ. 2568

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ บอกต่อที่ประชุมสมาชิกกลุ่มนาโต้ในวันพุธว่า ความหวังของยูเครนที่จะเห็นประเทศกลับไปเป็นเหมือนก่อนปี 2014 ที่รัสเซียผนวกแคว้นไครเมียเป็นของตนเองนั้นเป็น “เป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้จริง

ในการร่วมประชุมที่ที่ทำการใหญ่ของนาโต้ที่กรุงบรัสเซลส์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า “เช่นเดียวกับทุกฝ่าย เราเองก็ต้องการเห็นยูเครนที่มีอธิปไตยและเจริญรุ่งเรือง แต่เราต้องเริ่มตระหนักได้แล้วว่า การทำให้ยูเครนมีเขตแดนเหมือนก่อนปี 2014 นั้นเป็นเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้จริง การไล่ล่าเป้าหมายลวงตานี้มีแต่จะทำให้สงครามลากยาวออกไปและทำให้เกิดความเจ็บปวดมากขึ้น

ปัจจุบัน รัสเซียควบคุมพื้นที่ราว 20% ของยูเครนในช่วงก่อนการผนวกแคว้นไครเมีย

เฮกเซธยังกล่าวต่อหน้าที่ประชุมว่า สหรัฐฯ ไม่คิดว่า การที่กรุงเคียฟเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ เป็น “ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้จริง” จากการเจรจาเพื่อยุติสงครามการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีนี้

ทั้งนี้ หากยูเครนเข้าเป็นสมาชิกจริง นั่นก็จะเป็นการนำไปสู่สถานการณ์ที่สมาชิก 32 ประเทศของนาโต้ต้องยื่นมือเข้าช่วยปกป้องสมาชิกด้วยกันในกรณีที่เผชิญการโจมตีทางทหาร อันเป็นไปตามบทบัญญัติทางทหารที่มีร่วมกันของกลุ่ม

กรุงเคียฟพยายามเข้าเป็นสมาชิกนาโต้มาสักพักใหญ่แล้ว และสมาชิกอื่น ๆ ของกลุ่มก็เคยออกปากให้คำมั่นว่าจะช่วยผลักดันเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่ในช่วงที่สงครามนี้ยังดำเนินอยู่

ขณะเดียวกัน รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การให้การรับประกันด้านความมั่นคงต่อยูเครนนั้นควรจะมาจาก “กองทหารที่มีความสามารถของยุโรปและนอกยุโรป” พร้อมระบุว่า “เมื่อใดก็ตามที่จะมีการส่งกำลังทหารออกมาทำหน้าที่รักษาสันติภาพในยูเครน (ทหารเหล่านี้) ก็ควรถูกเคลื่อนพลออกมาเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ไม่ใช่ในนามนาโต้

นอกจากนั้น เฮกเซธยังกล่าวว่า สมาชิกนาโต้ต้องเพิ่มงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านการทหารให้ถึงระดับ 5% ของขนาดเศรษฐกิจของตน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มีสมาชิกประเทศใดทำถึงเลยในเวลานี้

รายงานข่าวระบุว่า ประเทศสมาชิกที่จัดงบด้านนี้สูงสุดคือ โปแลนด์ ที่ 4.12% ส่วนงบของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.4% ขณะที่ เป้าหมายการใช้จ่ายด้านการทหารของนาโต้อยู่ที่ 2% ของเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยในเวลานี้มีสมาชิก 23 ประเทศจากทั้งหมด 32 ประเทศที่ทำได้ถึงเป้าดังกล่าว

อย่างไรก็ดี เฮกเซธไม่ยืนยันว่า สหรัฐฯ เองจะเพิ่มงบนี้ให้ถึงระดับ 5% โดยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า “สหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมทนรับความสัมพันธ์ที่ขาดสมดุล [ในกลุ่มสมาชิกนาโต้] ซึ่งส่งเสริมการพึ่งพา [สหรัฐฯ] แต่ความสัมพันธ์ของเราควรจะให้ความสำคัญในลำดับต้น ๆ ต่อการเสริมกำลังของยุโรปให้รับผิดชอบความมั่นคงของตนเองให้ได้

คาดกันว่า ผู้นำประเทศสมาชิกนาโต้จะหารือและตกลงประเด็นเป้าหมายงบการทหารในการประชุมสุดยอดครั้งหน้าที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีและรอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG