หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกนาย Peter Navarro ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศจาก University of California วิทยาเขต Irvine ให้เป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นใหม่ได้ทำให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้นำจีนว่า แนวคิดในลักษณะต่อต้านจีนของนาย Navarro อาจจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
ศาสตราจารย์ปีเตอร์ นาวาร์โร่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศจาก University of California วิทยาเขต Irvine คือผู้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายด้านการค้าและเศรษฐกิจของจีนมาโดยตลอด และยังเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่มที่วิจารณ์รัฐบาลกรุงปักกิ่ง รวมทั้งเรื่อง “Death by China: Confronting the Dragon – A Global Call to Action” ซึ่งถูกนำไปสร้างเป็นหนังสารคดีด้วย
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ชื่นชมหนังสือของนาย Navarro ที่กล่าวหาว่านโยบายด้านการค้าของจีนได้ทำร้ายชนชั้นกลางในอเมริกา และทรัมป์เชื่อว่านาย นาวาร์โร่จะสามารถหาวิธีดึงงานกลับมายังสหรัฐฯ และเพิ่มรายได้ให้กับคนอเมริกัน
แต่หนังสือพิมพ์ของทางการจีน Global Times ได้ตีพิมพ์บทความทางเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “การที่โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกนายนาวาร์โร่ให้เป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นใหม่ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่านโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่มี่ต่อจีนจะเปลี่ยนไป ซึ่งอาจรวมถึงการควบคุมสินค้านำเข้าจากจีน หรือเพิ่มกำแพงภาษีให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องธุรกิจในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรูปแบบการค้าระหว่างอเมริกากับประเทศอื่นๆ”
ในวันพฤหัสบดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หัว ชุนหยิง ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีผลประโยชน์ทางการค้าร่วมกันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งยังส่งผลต่อสันติภาพและความมั่นคงของทั่วโลกด้วย
แต่นายจาง ยุนหลิง นักเศรษฐศาสตร์และสมาชิกของคณะกรรมาธิการแห่งชาติของสภาประชาชนจีน ชี้ว่าหากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จีนก็จะตอบโต้อย่างแน่นอน และจะเป็นอันตรายต่อระบบการค้าโลกโดยรวม
ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รับปากไว้ว่าจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อจีน โดยจะมีการประกาศว่าจีนเป็นผู้แทรกแซงค่าเงินหยวน รวมทั้งกำหนดอัตราภาษี 45% สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งนายปีเตอร์ นาวาร์โร่ ได้สนับสนุนมาตรการขึ้นภาษีดังกล่าว
นักวิเคราะห์จำนวนมากต่างกังวลว่าหากทรัมป์ใช้มาตรการที่ว่านี้จริง อาจทำให้เกิดสงครามการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสองประเทศได้
แต่คุณแฮรี่ คาซิอานิส ผอ.ที่ Center for the National Interest เชื่อว่าการประเมินว่าจะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจเกินความเป็นจริง เมื่อพิจารณาว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ มักจะเสนอให้มีการเจรจาต่อรองในเรื่องต่างๆ และอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้นำโลกที่เราไม่ควรถือเป็นจริงเป็นจังกับสิ่งที่ทรัมป์พูด
อย่างไรก็ตาม คุณคาซิอานิสเชื่อว่าการแต่งตั้งนายปีเตอร์ นาวาร์โร่ เป็นที่ปรึกษาระดับสูงด้านการค้า มีนัยสำคัญที่ต้องการสื่อให้ผู้นำจีนเห็นว่า แนวคิดผลประโยชน์ร่วมกันที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาหลายสิบปีนั้นไม่ได้ผล และสหรัฐฯ จะมีจุดยืนที่แข็งกร้าวขึ้นในอนาคต
ถึงแม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนกว่าจะถึงวันที่ 20 มกราคมปีหน้า แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างบอกว่าเริ่มเห็นสัญญาณของมาตรการที่แข็งกร้าวบางอย่างแล้ว เช่น การยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลกเกี่ยวกับภาษีที่ปักกิ่งกำหนดไว้สำหรับสินค้าเกษตรนำเข้าจากสหรัฐฯ รวมถึง ข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพด ซึ่งทางสหรัฐฯ บอกว่าเป็นผลร้ายต่อเกษตรกรอเมริกัน
และการที่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ใส่ชื่อเว็บไซต์ขายปลีก Taobao ของ Alibaba ไว้ในบัญชีดำรายชื่อตลาดที่มีการขายสินค้าปลอมแปลงอย่างแพร่หลายเมื่อต้นสัปดาห์นี้
(ผู้สื่อข่าว Saibal Dasgupta รายงานจากกรุงปักกิ่ง / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)
