ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สงครามการค้า 'จีน-สหรัฐฯ' กระทบเศรษฐกิจเเละผู้บริโภคทั้งสองชาติอย่างไร?


President Donald Trump speaks during a "Made in America Product Showcase" at the White House, July 23, 2018.
President Donald Trump speaks during a "Made in America Product Showcase" at the White House, July 23, 2018.

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลายอย่างจะรวมทั้งราคาหุ้นในทั้งสองประเทศที่จะได้รับผลกระทบทางลบ จากการตอบโต้ทางการค้าระหว่างกันนี้ เพราะเจ้าของหุ้นจำนวนหนึ่งเทขายหุ้นออกเเละนักลงทุนคนอื่นๆ ลังเลที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่อาจจะได้รับผลกระทบทางลบจากภารขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า เเละค่าใช้จ่ายกับภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เติบโตช้าเเละทำลายความมั่นใจของนักลงทุน

การตอบโต้ทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจสร้างผลเสียต่อความมั่นใจทางธุรกิจ เพราะบรรดาผู้จัดการไม่เต็มใจที่จะเสี่ยงซื้อเครื่องยนต์ใหม่ๆ สร้างโรงงานเเห่งใหม่ หรือว่าจ้างคนงานเพิ่มเติม และการขยายตัวทางธุรกิจที่น้อยลงทำให้มีความต้องการเครื่องมือน้อยลง

นอกจากนี้ เมื่อจำนวนเเรงงานลดลง มีคนน้อยลงที่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ จ่ายค่าอาหารหรือจ่ายค่าผ่อนรถยนต์ ความต้องการซื้อสินค้าและบริการลดลง ส่งผลกระทบเป็นระลอกคลื่นเเก่เศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง การเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะน้อยลงตามไปด้วย

เกษตรกรชาวอเมริกันจะเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบจากความขัดเเย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนนี้ เพราะจีนขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นทำให้ค่าอาหารแพงขึ้นสำหรับชาวจีน ส่งผลให้ความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐฯ ลดลง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของสหรัฐฯ

การคาดการณ์ล่วงหน้าถึงการลดลงด้านความต้องการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองตกลงก่อนหน้าที่จีนจะเริ่มมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าเสียอีก ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรชาวอเมริกันไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถแทรกเตอร์ได้หลายคันอย่างที่ต้องการ และไม่สามารถจ้างคนงานได้ตามจำนวนที่ต้องการ

เเละการมีคนงานน้อยลง ส่งผลให้มีคนที่มีเงินในการจับจ่ายน้อยลง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในรัฐที่ทำการเกษตรกรรมชะลอตัว

ในขณะเดียวกัน การที่สหรัฐฯ เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนส่งผลกระทบต่อสินค้าที่ผลิตในจีน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องบิน เครื่องยนต์กลไก เเละสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ เป็นความพยายามในการรังแกเเละกลั่นเเกล้งทางการจีน สำนักข่าวนี้ยังรายงานด้วยว่า ภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ ละเมิดต่อกฏระเบียบนานาชาติเเละจะกระทบบริษัทเเละผู้บริโภคทั่วไปจำนวนมาก

บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทางการสหรัฐฯ ได้พยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนที่จะส่งผลโดยตรงให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคในสหรัฐฯ สูงขึ้น บรรดานักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อสินค้าที่นำไปประกอบเป็นสินค้าผู้บริโภค จะยังคงทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอยู่ดี ทำให้เงินเฟ้อมากขึ้นเเละลดความต้องการซื้อลง

บิล อดัมส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งธนาคารพีเอ็นซี ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีน กล่าวว่า จีนสามารถลดค่าเงินหยวนลงมาได้เพื่อรับมือกับเรื่องนี้ แต่จีนเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น ค่าเงินหยวนที่ลดลงจะช่วยให้ราคาสินค้าจีนลดลงเเละแข่งขันได้ดีมากขึ้นในตลาดนานาชาติ เเต่อดัมส์กล่าวว่า การลดค่าเงินหยวนแม้จำดีต่อสินค้าส่งออก เเต่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นเพราะราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นซึ่งรวมทั้งน้ำมันเเละวัตถุดิบที่บริษัทจีนต้องการใช้

ในขณะนี้ ความไม่เเน่นอนที่เกิดจากความขัดเเย้งทางการค้านี้ ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯ เเข็งค่าขึ้น เพราะนักลงทุนมองว่าสหรัฐฯ เป็นเเหล่งลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความขัดเเย้งทางเศรษฐกิจ เเต่ค่าเงินที่สูงขึ้นส่งผลให้สินค้าของสหรัฐฯ มีราคาเเพงขึ้นสำหรับผู้บริโภคในต่างประเทศ ส่งผลเสียต่อการส่งออกเเละการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

และผลกระทบทั้งหมดทั้งมวลของความขัดแย้งทางการค้านี้ ยากต่อการคาดเดาว่าจะออกมาในรูปใด บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความรุนแรงของผลกระทบขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่ายขึ้นภาษีนำเข้ากับกี่รอบเพื่อตอบโต้กับอีกฝ่ายหนึ่ง และภาษีที่เพิ่มขึ้นในที่สุดสูงขึ้นไปอยู่จุดใด ตลอดจนระยะเวลาของความขัดเเย้งทางการค้า

(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยที่กรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG