ในวันพุธนี้ จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำ 5 สมาชิกกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว หรือ BRICS บนเวทีประชุมที่นครโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ ซึ่งจีนในฐานะประเทศที่ร่ำรวยที่สุดใน 5 ประเทศของกลุ่มได้ส่งสัญญาณถึงการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ท่ามกลางทิศทางการเมืองโลกที่เปลี่ยนแปลง
ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา และประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ได้ร่วมหารือกัน 1 วันก่อนเวทีประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS หรือ 5 ประเทศกําลังพัฒนาที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว อันได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้
โดยผู้นำแอฟริกาใต้ได้ร่วมแถลงข่าวพร้อมกับผู้นำจีนด้วยว่า ความสัมพันธ์ของแอฟริกาใต้และจีนเริ่มต้นจากความต้องการสานสัมพันธ์ระดับทวิภาคี และพัฒนาขึ้นเรื่อยมาในหลายด้าน จนกลายเป็นความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งทั้ง 2 ชาติได้ร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนและของทั้งประเทศ
ล่าสุด จีนในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่ม BRICS ได้ลงนามข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการลงทุนหลายฉบับ มูลค่าถึง 14,000 ล้านดอลลาร์ ในการหารือครั้งนี้ด้วย
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน ได้กล่าวผ่านล่ามในการหารือครั้งนี้ ยืนยันถึงการประสานความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับแอฟริกาใต้ ครอบคลุมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การลงทุน โครงการริเริ่มด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งยังได้เชิญผู้นำแอฟริกาใต้ไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบไปเสียหมด เพราะเวทีประชุม BRICS ปีนี้ มีขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังจากที่จีนตกเป็นเป้าหมายในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่ประกาศจะขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนรวมกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนเลือกที่จะตอบโต้ด้วยการสร้างความร่วมมือกับชาติอื่น รวมถึงกลุ่ม BRICS ที่มีรัสเซียอยู่ด้วย
ในเรื่องนี้ นายโคบัส แวน สตาเดน นักวิเคราะห์ด้านจีน-แอฟริกา มองว่า จีนค่อนข้างสบายใจในการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ที่นครโจฮันเนสเบิร์กนี้ เพราะจีนมีบทบาทสำคัญทั้งขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม BRICS รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในระดับโลกที่ไม่อาจถูกมองข้ามไปได้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุม 3 วันของกลุ่ม BRICS ในนครโจฮันเนสเบิร์ก ตั้งแต่วันพุธนี้ด้วย ซึ่งนายแวน สตาเดน เชื่อว่าประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย น่าจะอยู่บนเวทีการหารือของ 5 ชาติสมาชิกกลุ่ม BRICS ในครั้งนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด