ในวันพุธ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ อนุมัติให้ใช้ยาสร้างสารภูมิต้านทานสังเคราะห์ของบริษัทเวชภัณฑ์ แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสำหรับผู้ที่มีอาการต่อต้านวัคซีนอย่างรุนแรง
นับเป็นครั้งแรกที่เอฟดีเอรับรองให้ใช้ยาป้องกันการติดโควิดเป็นการฉุกเฉิน ผลการทดสอบพบว่า ยาเอวูเชลด์มีประสิทธิผลในการป้องกันอาการโควิด-19 ได้ราว 77%
เอฟดีเอเตือนว่า ยาเอวูเชลด์ (Evusheld) มิได้มาแทนการฉีดวัคซีนสำหรับบุคคลทั่วไป และอนุญาตให้ใช้เฉพาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์แท่านั้น เช่น มีอาการแพ้วัคซีนหรือมีอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง โดยสามารถใช้ได้สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการป่วยรุนแรงจากการติดโควิด
ยาเอวูเชลด์ประกอบด้วยสารภูมิต้านทานสังเคราะห์สองประเภท และใช้วิธีฉีดให้กับผู้ป่วยเป็นจำนวนสองเข็มติดต่อกัน โดยสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโคโรนาไวรัสโดยมุ่งไปที่โปรตีนหนามของไวรัสนั้น
โดยเอฟดีเอระบุว่า การใช้ยาดังกล่าวอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้เป็นเวลาราว 6 เดือน อย่างไรก็ตาม เอฟดีเอเตือนว่ายานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดอาการแพ้ ปวดศีรษะหรืออ่อนเพลีย นอกจากนี้ ยังไม่อนุญาตให้ใช้ยานี้กับผู้ที่เคยติดเชื้อโคโรนาไวรัสมาแล้ว