ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี พร้อมประกาศมอบงบความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมอีก 2,400 ล้านดอลลาร์จากราว 5,500 ล้านดอลลาร์ ให้กับยูเครนในวันพฤหัสบดี เพื่อช่วยขยายความสามารถในการป้องกันตนเอง
ในการพูดคุยกับเซเลนสกีที่ทำเนียบขาว ปธน.ไบเดน ยังได้ให้คำมั่นกับผู้นำยูเครนด้วยว่า จะเบิกจ่ายงบช่วยเหลือทั้งหมดที่ได้รับการอนุมัติแล้วก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศจะหมดลงในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า
ไบเดนยังเผยถึงแผนจัดประชุมกับผู้นำโลกอื่น ๆ เพื่อหารือประแด็นการป้องกันประเทศของยูเครน ในช่วงเยือนเยอรมนีในเดือนหน้าด้วย
ไบเดนกล่าว “ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า “รัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายชนะ ยูเครนจะอยู่ยั้งยืนยง และเราจะเดินหน้ายืนหยัดเคียงข้างยูเครนไปตลอด
ขณะเดียวกัน เซเลนสกีกล่าวขอบคุณไบเดน สำหรับ “การสนับสนุนอันแข็งแกร่ง” และ “การตัดสินใจที่ช่วยในการปกป้องยูเครน” โดยกล่าวว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งอย่างมากที่ยูเครนและอเมริกายืนหยัดเคียงข้างกัน นับตั้งแต่เมื่อรัสเซียเริ่มต้นทำการรุกรานอย่างชั่วร้าย ความมุ่งมั่นของท่านมีความสำคัญยิ่งที่จะทำให้เรายืนยงต่อไปได้”
สำหรับงบความช่วยเหลือรอบใหม่ของสหรัฐฯ นี้มีระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออตพร้อมแบตเตอรี รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการยิงจากเครื่องบินลงสู่พื้นดินและระเบิดร่อนนำวิถีที่สามารถยิงได้ไกลถึง 130 กิโลเมตร รวมทั้งโดรน อาวุธยุทธภัณฑ์และเสบียงสรรพาวุธอื่น ๆ ด้วย
นอกจากนั้น สหรัฐฯ มีแผนขยายโครงการอบรมนักบินเครื่องบินรบเอฟ-16 ของยูเครนเพื่อฝึกนักบินเพิ่มอีก 18 คนในปีหน้าด้วย
ก่อนหน้าการนั่งหารือกันที่กรุงวอชิงตัน ไบเดนได้ออกแถลงการณ์ประกอบคำประกาศของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเตรียมงบช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติมที่มีเนื้อความว่า “เป็นเวลาเกือบ 3 ปี สหรัฐฯ ได้ระดมการสนับสนุนจากทั่วโลกให้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในยูเครนที่เดินหน้าปกป้องเสรีภาพของพวกเขาจากการรุกรานของรัสเซีย และนั่นก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดอย่างหนึ่งของรัฐบาลของผมในการจัดส่งการสนับสนุนที่ยูเครนต้องการเพื่อให้ดำรงคงอยู่ต่อไปได้”
ในการนี้ เซเลนสกีได้ออกมาขอบคุณสหรัฐฯ และโพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ด้วยว่า “เราจะใช้ความช่วยเหลือนี้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อบรรลุเป้าหมายหลักที่มีร่วมกันของเรา นั่นคือ การที่ยูเครนเป็นฝ่ายมีชัย สันติภาพที่ยั่งยืนและเป็นธรรม และความมั่นคงในภูมิภาคข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก (transatlantic)”
อย่างไรก็ตาม อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกีที่ไม่สามารถทำให้สงครามยุติลงได้เนื่องจากไม่ยอมทำข้อตกลงกับรัสเซีย
และเมื่อวันพุธ ทรัมป์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ในยูเครนนั้นเป็นความผิดพลาดของไบเดนและรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ที่ให้สัญญาจะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารให้กับกรุงเคียฟ แทนที่จะผลักดันผู้นำยูเครนให้ยอมยกดินแดนของตนให้รัสเซีย
ทรัมป์กล่าวว่า “ไบเดนและคามาลายอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ด้วยการส่งเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับเซเลนสกี ทั้งที่ไม่เคยมีประเทศใดทำมาก่อน”
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ยังแย้งด้วยว่า ยูเครนควรจะยอมลงให้กับมอสโก ก่อนที่กองทัพรัสเซียจะเริ่มทำการรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 พร้อมกล่าวว่า “ข้อตกลงอะไรก็ตาม --- แม้แต่ข้อตกลงที่แย่ที่สุด --- ก็ยังดีกว่า สิ่งที่เราเผชิญอยู่ในตอนนี้”
ทรัมป์ยังแสดงความไม่แน่ใจว่า ยูเครนอยู่ในจุดที่จะสามารถเจรจาการยุติสงครามนี้ได้หรือไม่ด้วย พร้อมกล่าวว่า “เราจะทำข้อตกลงอะไรได้บ้าง มันพังเสียหายไปหมดแล้ว” และว่า “ผู้คนก็ล้มตายไป ประเทศก็ย่อยยับเหลือแต่ซาก”
- ที่มา: วีโอเอและเอพี
กระดานความเห็น