สหรัฐฯ กำลังเตรียมเปิดพรมแดนทางอากาศให้กับนักเดินทางต่างชาติจากทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นของ 1 ใน 3 บริษัทที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันอนุมัติและครบโดสแล้ว หรือ เป็นผู้ที่มีผลตรวจการติดเชื้อเป็นลบในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ตามคำประกาศของทำเนียบขาวในวันจันทร์
เจ้าหน้าที่รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า แผนการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยจะมี “ข้อยกเว้นแบบจำกัด” ซึ่งหมายถึง การยกเว้นเงื่อนไขการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 50 ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่ต่ำ อันรวมถึงประเทศที่มีฐานะยากจนที่สุดในโลกบางประเทศด้วย ขณะที่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีนั้นจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับวัคซีน เพียงแต่ต้องมีหลักฐานการทดสอบการติดเชื้อเป็นลบเท่านั้น
วัคซีนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับนั้นคือสูตรที่สำนักงานอาหารและยา (FDA) อนุมัติให้ใช้ในประเทศ อันได้แก่วัคซีนของ โมเดอร์นา (Moderna) ไฟเซอร์ (Pfizer) และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson)
ในส่วนของข้อยกเว้นด้านวัคซีนนั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอธิบายว่า เป็นเงื่อนไขสำหรับ “ผู้ที่เข้าร่วมทดสอบทางคลินิก สำหรับการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 บางสูตร ผู้ที่มีข้อห้ามจากแพทย์ไม่ให้รับวัคซีน และผู้ที่เดินทางภายใต้สถานะฉุกเฉินหรือเหตุผลด้านมนุษยธรรม” โดยผู้ที่ได้รับการยกเว้นทั้งหมดนี้ ยังจะต้องตกลงที่จะเข้ารับวัคซีนในสหรัฐฯ หากมีประสงค์จะพำนักอยู่ในประเทศนี้เป็นเวลา 60 วันขึ้นไปด้วย
ข้อมูลจากสมาคมท่องเที่ยงสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อปี ค.ศ. 2019 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ เกือบ 80 ล้านคน ก่อนที่ตัวเลขดังกล่าวจะดิ่งเหวในปีถัดมา เพราะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งดำเนินมาตรการจำกัดการเดินทางจากเกือบทั่วโลกไป
สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ด้วยเที่ยวบินต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งรวมถึง ชาวอเมริกันและผู้ที่มีสิทธิ์พำนักถาวรในสหรัฐฯ จะต้องเตรียมหลักฐานที่แสดงผลการทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบซึ่งแพทย์ออกให้ภายใน 1 วันก่อนออกเดินทาง โดยเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่จำเป็นต้องทำการตรวจการติดเชื้อ ขณะที่ ผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วต้องแสดงหลักฐานพิสูจน์ว่าหายป่วยดีแล้วในช่วง 90 วันก่อนเดินทางด้วย
