สหภาพยุโรป หรือ อียู บรรลุข้อตกลงในวันจันทร์ให้ถอดสหรัฐฯ ออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางมายังสหภาพยุโรป ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการควบคุมต่าง ๆ เช่น การกักตัวและการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม
นั่นหมายความว่า ประเทศสมาชิกของอียูอาจใช้มาตรการควบคุมจำกัดนักเดินทางจากสหรัฐฯ อีกครั้ง เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอเมริกาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ อียูเพิ่งถอดชื่อประเทศอิสราเอล โคโซโว มอนเตเนโกร และนอร์ธมาเซโดเนีย ออกจากรายชื่อ "ประเทศปลอดภัย" นี้เช่นกัน ทำให้เหลือประเทศที่อยู่ในกลุ่มปลอดภัยเพียง 17 ประเทศ เช่น แคนาดา ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำนี้ไม่ได้มีผลบังคับใช้กับประเทศสมาชิกของอียูทุกประเทศ และแต่ละประเทศจะมีสิทธิ์ตัดสินใจกำหนดมาตรการของตัวเอง
สหภาพยุโรปยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวอเมริกันเมื่อเดือนมิถุนายน แม้ว่าทางสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการควบคุมผู้ที่เดินทางมาจากยุโรปก็ตาม
ทั้งนี้ อียูกำหนดมาตรฐานสำหรับประเทศที่ถูกจัดว่า "ปลอดภัย" คือต้องมีอัตราการติดเชื้อไม่ถึง 75 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี เปิดเผยตัวเลขล่าสุดว่า สหรัฐฯ มีอัตราการติดเชื้อรายใหม่ที่มากกว่า 300 คนต่อประชากร 100,000 คน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอเมริกาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยวันละมากกว่า 150,000 คน ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้ ในขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นแตะระดับ 100,000 คน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมเช่นกัน
(ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์)