ลิ้งค์เชื่อมต่อ

คนอเมริกันเกือบครึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือด หลังมีการปรับเกณฑ์ใหม่


Victoria Will (L) has her blood pressure checked by nurse practitioner Sapana Patel
Victoria Will (L) has her blood pressure checked by nurse practitioner Sapana Patel
please wait

No media source currently available

0:00 0:03:02 0:00

รายงานฉบับใหม่ประเมิณว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ป่วยเป็นโรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดบาง หลังมีการปรับเกณฑ์วัดอาการความดันโลหิตสูงใหม่

สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกัน กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นโรคหัวใจมากกว่า 121 ล้านคนในปี พ.ศ. 2559

ถ้าไม่นับผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูง ประชากรราว 24 ล้านคนหรือ 9% มีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น มีอาการหัวใจล้มเหลว หรือหลอดเลือดอุดตัน

แพทย์หญิง Mariell Jessup หัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสมาคมโรคหัวใจ กล่าวว่า การตรวจวัดความรุนแรงของโรค จะแสดงให้เห็นว่ามีจุดไหนบ้างที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง

ก่อนหน้านี้อาการความดันโลหิตสูง คือการที่ค่าความดันตัวบนอยู่ที่ 140 เป็นอย่างน้อย และค่าความดันตัวล่างอยู่ที่ 90 หรือมากกว่านั้น

แต่หลังจากที่ใช้แนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ฉบับใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2560 ระดับความดันเฉลี่ยที่ 130/80 ถือว่ามีอาการความดันสูง

การใช้ค่าใหม่ทำให้คนใส่ใจถึงความเสี่ยงจากความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นที่มาของอาการหัวใจวาย อาการเส้นเลือดอุดตันในสมอง ตลอดจนปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย และมีเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอาการเหล่านี้ที่สามารถควบคุมอาการไว้ได้

การที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้ยาในทันที ขั้นตอนแรก คือการตั้งเป้าหมายในการดำเนินชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ และสำหรับผู้ที่ใช้ยาก็ควรตั้งเป้าหมายแบบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ออกกำลังกาย และพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุของอาการความดันโลหิตสูงถึง 90%

รายงานดังกล่าวเป็นรายงานสถิติประจำปีที่ได้รับการปรับให้ทันสมัยโดยสมาคมโรคหัวใจ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และสถาบันอื่นๆ

ทั้งนี้โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชากรสหรัฐฯ 1 คนในทุกๆ 3 คน และคร่าชีวิตชาวอเมริกันมากกว่าโรคมะเร็งทุกชนิด และโรคระบบทางเดินหายใจต่างๆ เช่น โรคปอดบวมมารวมกัน

XS
SM
MD
LG