องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ของสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก กำลังขยายโครงการที่เรียกว่า "Qualification Passport" หรือการให้หนังสือเดินทางรับรองผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อให้ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นสามารถศึกษาและทำงานในประเทศอื่นได้อย่างถูกต้อง
หลายครั้งที่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากซึ่งไปอาศัยอยู่ในประเทศอื่น ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาในระดับสูงเหมือนกับที่เคยศึกษาอยู่ในประเทศบ้านเกิด หรือไม่สามารถหางานทำที่เหมาะสมกับทักษะฝีมือของพวกเขาในประเทศใหม่ที่พวกเขาลี้ภัยไปอาศัยอยู่
สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่มีใบรับรองการศึกษา หรือใบรับรองทักษะฝีมือการทำงานสำหรับนายจ้างในประเทศใหม่
ด้วยเหตุนี้ องค์การยูเนสโกจึงได้จัดให้มีโครงการที่ชื่อว่า "Qualification Passport" หรือการให้หนังสือเดินทางรับรองผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งช่วยออกเอกสารที่เป็นมาตรฐานสากล ระบุข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ลี้ภัยผู้นั้น รวมถึงประสบการณ์การทำงาน ระดับการศึกษา และภาษาที่ใช้ได้คล่องแคล่ว
คุณสเตฟานี จิอันนินี ผู้ช่วยผู้อำนวยการยูเนสโก ฝ่ายกิจการการศึกษา กล่าวว่า จุดประสงค์ของโครงการนี้คือการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารรับรองความสามารถหรือความสำเร็จที่เคยมีมาในประเทศบ้านเกิด
คุณจิอันนินี กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารสำคัญติดตัวก็เหมือนสูญเสียส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขาไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญ ความสามารถ หรือความรู้ โครงการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยคนเหล่านั้น และยังเป็นการช่วยเหลือประเทศที่รับผู้ลี้ภัยเข้าไปอาศัยให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรมนุษย์เหล่านั้น
คุณอันวาร์ โฮรานี ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย คือผู้ได้รับหนังสือเดินทางแบบรับรองคุณสมบัตินี้ชุดแรก ๆ เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขากายภาพบำบัดที่เมือง Homs เมื่อปี ค.ศ. 2016 และต้องลี้ภัยสงครามหลังจากนั้น เธอใช้เวลา 1 ปีที่ค่ายผู้ลี้ภัยในกรีซ โดยไม่มีเอกสารรับรองการศึกษาของเธอ
ในปี 2017 โฮรานี ได้รับหนังสือเดินทางแบบรับรองคุณสมบัติจากสหภาพยุโรป ก่อนที่จะเดินทางลี้ภัยต่อไปยังนอร์เวย์ ซึ่งเธอบอกว่าเอกสารดังกล่าวเปลี่ยนชีวิตของเธอ
ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียผู้นี้บอกว่า เธอสามารถใช้หนังสือเดินทางรับรองคุณสมบัติในการสมัครศึกษาต่อที่ University of Oslo ในด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ และสามารถหางานทำได้ในนอร์เวย์
ในเดือนธันวาคมนี้ องค์การยูเนสโกได้ขยายการออกหนังสือเดินทางแบบรับรองคุณสมบัติไปยังอีกหลายประเทศ รวมทั้ง แซมเบีย อิรัก และโคลอมเบีย โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลี้ภัยจำนวนมากต่อไป