องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) กล่าวว่า ควรปิดโรงเรียนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนักเรียนกว่า 290 ล้านคนทั่วโลก
Audrey Azoulay ประธานยูเนสโก กล่าวเตือนว่าหากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสยังคงอยู่เป็นเวลานาน อาจเป็นภัยคุกคามต่อสิทธิการศึกษาได้
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว จีนยังเป็นประเทศเดียวที่ต้องปิดโรงเรียน แต่ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น อิหร่าน เกาหลีเหนือ อิตาลี เลบานอน และมองโกเลียก็ปิดโรงเรียนแล้ว และโรงเรียนในบางส่วนของเวียดนาม ไทย ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ก็ถูกปิดไปแล้วด้วยเช่นกัน
Azoulay กล่าวว่ายูเนสโกกำลังทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยูเนสโกกำลังหาทางช่วยเหลือหลาย ๆ ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงเรียน ในการตั้งโครงการการศึกษาทางไกล และแนะนำซอฟต์แวร์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ทั้งโรงเรียนและครูอาจารย์สามารถใช้ในการสอนหรือติดต่อกับนักเรียนได้
อย่างไรก็ตาม การปิดโรงเรียนอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการตามมา และปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ การที่นักเรียนใช้เวลาในการเรียนน้อยลง อีกปัญหาหนึ่งคือการที่ผู้ปกครองต้องแบ่งเวลาระหว่างการทำงานกับการเลี้ยงลูกซึ่งอาจทำให้สูญเสียรายได้ ครอบครัวที่ต้องดิ้นรนอยู่แล้วอาจไม่สามารถให้ลูก ๆ เรียนหนังสือที่บ้านได้ เหมือนกับผู้ที่มีสถานภาพทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า